9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
หมอและครู กู้อารยธรรมพอเพียง (2)
สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจารย์ยักษ์พูดถึงเรื่องราวของผู้นำเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่การปฏิบัติที่เป็นกลุ่มบุคคลที่ชาวบ้านนับหน้าถือตา คือ หมอและครูจากจังหวัดนครพนมซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง จากนั้นอาจารย์ยักษ์จึงได้เดินทางไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วนที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์นั้นแม้ยังมีการลงมือทำไม่มากนักแต่ก็เริ่มด้วยการสำรวจเก็บข้อมูลอย่างละเอียด
จากงานสำรวจพบว่า เจ้าหน้าที่พนักงานพบว่าในแต่ละวันคนเราใช้น้ำยากันคนละ 20 กว่าชนิด ทั้งน้ำยาล้างรถ น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาสารพัด สุดท้ายก็ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากมาย เฉพาะเงินที่ต้องจ่ายไปกับค่าน้ำยา 7-8 ชนิดก็ตกเดือนละเกือบ 1,000 บาท แต่หลังจากได้มาเรียนรู้การผลิตน้ำยาอเนกประสงค์ สารพัดประโยชน์ ใช้ล้างจานก็ได้ ซักผ้า ถูบ้าน ทำครีมนวด ทำสบู่เป็นแล้วก็พบว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจากรายจ่ายเดือนละเกือบ 1,000 เหลือเพียง 105 บาท ซึ่งมีผู้ทำได้จริงเก็บเป็นตัวเลขสถิติไว้ 2 ราย
นอกจากนั้นที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ยังมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่เป็นหนี้เป็นสินกันมาก เงินเดือนออกทีบรรดาเจ้าหนี้ก็จะมาทวงถึงโรงพยาบาล ลูกหนี้ซึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่บ้างเป็นลูกจ้างบ้างก็ต้องคอยหนีหน้า บ้างก็หลบเข้าห้องน้ำ บ้างก็ทำทีเป็นเดินเลี่ยงไปตึกอื่นๆ นี่ก็เป็นปัญหาของบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งน่าเป็นห่วง
ไปเยี่ยมการทำงานของหมอกับครูงวดนี้ก็ทำให้อาจารย์ยักษ์อดนึกย้อนไปในอดีตเมื่อเริ่มวางแผนชาติใหม่ๆ ไม่ได้ เนื่องจากมีข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการวางแผนชาติตั้งแต่สมัยแผน 4 เป็นข้อมูลจากกระทรวง ทบวง กรมหน่วยงานต่างๆ ก็มีการทำ spot check โดยการเลือกขึ้นมาแล้วลงไปตรวจสอบ พบว่ากระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลถูกต้องแม่นยำที่สุด ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับคน สภาพแวดล้อม แม้แต่ข้อมูลที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แม่นยำมากถึงขนาดที่ว่ามีหมู่บ้านหนึ่งข้อมูลถูกทั้งหมดผิดไปตัวเดียว คือสัตว์เลี้ยงมีจำนวนน้อยกว่าที่แจ้งไปตัวหนึ่ง สอบถามจึงพบว่าเพิ่งตายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็รู้สึกอุ่นใจว่ากระทรวงนี้ทำข้อมูลได้อย่างจริงๆ จังๆ แม่นยำ มีคุณภาพ และหากกระทรวงสาธารณสุขลุกขึ้นช่วยพระองค์ท่าน ทำการเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่การปฏิบัติก็น่าจะได้ผลจริง
โดยก่อนอื่นต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามความหมายของพระองค์ท่าน ไม่ใช่ตามความพอเพียงตามความหมายของนักวิชาการที่ไหน ทำความเข้าใจให้ชัดแล้วลงมือปฏิบัติจริงๆ โดยมีหมอเป็นผู้นำ โรงเรียน พระ ชาวบ้านก็เชื่อถือหมออยู่เป็นทุนแล้วก็เชื่อว่าจะขยายผลไปได้ ไปเยี่ยมลูกศิษย์ 2 โรงพยาบาลนี้ทำให้อุ่นใจว่าการเผยแพร่ความพอเพียงลงสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพสามารถทำได้จริงๆ ภายใต้สังคมที่กำลังร่อแร่อยู่ตอนนี้
ระหว่างที่ไปเยี่ยมทั้งสองจังหวัด ก็มีคำถามมากมาย ก็เป็นที่ชื่นอกชื่นใจกันทั้งผู้ถามและผู้ตอบ แต่ว่าที่สำคัญที่อยากหยิบยกมา มีทีวีช่อง 7 ได้มาขอสัมภาษณ์มีคำถามว่า ถามจริงๆ เถอะเศรษฐกิจพอเพียงไปแก้ปัญหาชาวบ้านได้จริงเหรอ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างที่อยู่ในโรงพยาบาล ครูที่เป็นลูกจ้าง แม้แต่ชาวบ้านที่เป็นหนี้สินจะปลดหนี้สินได้จริงหรือ คำถามที่สอง คือทำเศรษฐกิจพอเพียงแล้วก็ต้องยากจนข้นแค้นต้องอยู่กับท้องไร่ ท้องนาไปตลอดจริงไหม อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไร เป็นคำถามที่เรียกว่า คำถามเข้าทาง อาจารย์ยักษ์ก็ตอบฟันธงอย่างง่ายๆ ว่าระบบเศรษฐกิจการค้าทุกวันนี้ มันหลอกให้คนไปทำมาหาเงิน แล้วเอาเงินไปซื้อกิน ไปซื้อใช้ ไปซื้อบ้านที่อยู่อาศัย ซื้ออาหาร ซื้อน้ำ ซื้อแม้แต่อากาศหายใจ ส่วนปรัชญาเศรษฐกิจของคนไทยโบราณ หรือแม้แต่ปรัชญาพอเพียงของพระองค์ท่านเองนั้นกลับสอนให้ทำเป็นขั้นเป็นตอน ขั้นพื้นฐานให้ทำมาหากิน ทำมาหาใช้ ทำมาหาอากาศหายใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ไปทำมาหาเงินแล้วก็เจ๊ง แล้วก็ไม่มีเงินมาซื้อข้าว ปลา อาหารกิน ต้องกู้เขามากินมาใช้ ก็เปลี่ยนใหม่สิ อย่าไป “ทำมาหาเงิน” กลับไป “ทำมาหากิน” เพราะว่าอารยธรรมของเราเป็นมือหนึ่งของโลกเชี่ยวชาญเรื่องของการทำมาหากิน ตื่นเช้าขึ้นมาลองแข่งกันทำมาหากินสิ แค่ไปหาปลา หาหอย หาผัก หาเห็ดมากิน เรื่องง่ายๆ ทำมาหากินทำได้ง่ายมาก แต่ถ้าเราไปแข่งเขาทำมาหาเงินเราสู้เขาไม่ไหวหรอก เพราะไม่ใช่ทางของเรา นั่นเป็นเพียงเศรษฐกิจพอเพียงขั้นต้น ส่วนขั้นก้าวหน้าเรามาว่ากันต่ออีกสักตอนเพื่อความเข้าใจอย่างกระจ่างแท้ +
แหล่งที่มา:
พอแล้วรวย คมชัดลึก วันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2556
