9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
ไม่เชื่อโบราณจะบานบุรี ถ้าเชื่อโบราณไม่นานจะได้ดี (2)
ฉบับที่แล้วอาจารย์ยักษ์ เขียนถึงความห่วงใยเรื่องของทรัพยากร เมื่อคนไทยไม่เชื่อโบราณอีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วทรัพยากรของประเทศนี้ที่มีอยู่น้อยนิดก็จะหมดไป ไม่ทันชั่วลูกชั่วหลาน ทรัพยากรสำคัญที่สุดที่ใช้ผลิตอาหารของเราคือ ดินที่ดี ก็จะกลับกลายเป็นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่วนน้ำนั้นจะยิ่งขาดแคลน และจะถูกเอาไปใช้ประโยชน์เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจเป็นหลัก น้ำจะเป็นเงิน เป็นทอง เป็นอุตสาหกรรม สุดท้ายคนไทยก็จะไม่เหลืออาหารการกิน ไม่เหลืออากาศบริสุทธิ์ ไม่เหลือน้ำที่บริสุทธิ์สมบูรณ์ เมื่อเป็นเช่นนี้คำสอนโบราณก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีความหมายอะไร แต่ว่าคำสอนยุคใหม่ของการศึกษาที่เร่งพัฒนาคนให้ไปเรียนรู้การค้าเสรี จะเป็นกระแสที่แรง ที่คนจะแห่ตาม
สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ แม้แต่วัฒนธรรมที่ดีงามของเรา ซึ่งทั่วโลกเขายอมรับแล้วว่าวิถีชีวิตที่พอเพียง วิถีที่เรียบง่าย ประหยัด อดทน มีอยู่มีกินโดยไม่ต้องพึ่งเงินทองนั้น ก็จะค่อยๆ หายไป กลุ่มคนที่ตามกระแสไม่ทันจะได้รับผลกระทบมากมายโดยไม่ทันตั้งตัว แค่คนไทยเปิดเสรีกับจีน เกษตรกรผู้ปลูกหอม ปลูกกระเทียม ปลูกผลไม้หลายชนิดก็ราคาตกกันหมดแล้ว ยิ่งเปิดเสรีกันทุกๆ ด้านต่อไป คนทำฟาร์มเลี้ยงวัวน้ำนม น้ำนมก็จะถูกลง คนเลี้ยงวัวก็จะเจ๊งตามมา คนปลูกหญ้าก็จะเจ๊งตาม พ่อค้า แม่ค้า โดยเฉพาะรายเล็กรายน้อยที่ความสามารถสู้รายใหญ่ไม่ได้ ก็จะถูกกลืนไปหมด สุดท้ายแผ่นดินนี้ก็จะถูกเขาซื้อไปได้ด้วยเงินก็เป็นเรื่องที่โบราณก็เตือนไว้แล้ว
พระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านก็หยิบยกเอาคำสอนของคนโบราณขึ้นมาบอก มาเตือนเรื่อยๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครใส่ใจ แม้กระแสเศรษฐกิจพอเพียงจะดูเหมือนว่าพูดกันมากทั้งประเทศ หรือลุกลามไปพูดกันในหลายประเทศ แต่ในทางปฏิบัติจริงแล้วเท่าที่อาจารย์ยักษ์ไถ่ถามดู หรือติดตามดูจากผู้ที่เข้ามาผ่านการฝึกอบรมไป รวมทั้งกลุ่มคนนอกสถานที่ซึ่งอาจารย์ยักษ์ไปบรรยายให้ฟัง เท่าที่ไถ่ถามดูก็ยังไม่มีใครรู้ผลกระทบแน่ชัด จึงเหมือนกับอนาคตที่กำหนดได้แน่นอนแล้วว่า ผู้คนจะหลงวิ่งตามกระแสไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร สุดท้ายก็ต้องมาพึ่งบุญเก่า ต้องมาพึ่งโชคชะตา หรือหันหาที่พึ่งที่ใดไม่ได้ก็ต้องไปพึ่งพระสยามเทวาธิราช ถ้าพระสยามเทวาธิราชมีจริงนั่นก็แสดงว่าท่านต้องทำงานหนักน่าดู แล้วยังไม่รู้ว่าจะต้านกระแสไหวหรือเปล่า ทั้งพระสยามเทวาธิราช ทั้งคนโบราณที่พร่ำสอนกันมานี่ก็ดูแล้วจะเอาไม่อยู่ ถึงแม้จะเอาอยู่ก็จะเอาอยู่เหมือนตอนน้ำท่วมปีที่แล้ว เพราะกระแสที่หลากเข้ามาของทั้งวัฒนธรรม เกมการค้าที่ล้วนลึกซึ้งนั้นเป็นภารกิจหนักหนาสาหัส คนที่เข้ามามีทุนหนัก มีความรู้มาก มีประสบการณ์สูง แล้วคนไทยนั่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือไม่ชำนาญด้านการค้าขาย ถนัดแต่ค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ชอบอยู่แบบสบายๆ ลองคิดดูว่าถ้าเราจะคิดค้าขายแข่งกับคนอาเซียนนั้นเราจะสู้เขาได้อย่างไร ไม่ต้องแข่งกับใคร แค่แข่งกับคนจีนที่อยู่ในประเทศต่างๆ ก็ไม่มีทางสู้อยู่แล้ว เมื่อถึงวันนั้นสังคมไทยจะทำอย่างไร รัฐบาลจะทำอย่างไร โรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานต่างๆ ของรัฐหรือแม้แต่ภาคประชาชนจะทำอย่างไร ยังมองไม่เห็นว่าวิถีที่จะอยู่กับโลกที่จะเปิดเสรีทางการค้าจะเป็นอย่างไร เพราะแค่เรื่องภาษาก็ไม่ทันเขาแล้ว ภาษาจีน ภาษาอังกฤษที่ใช้กันมาก คนไทยก็ไม่ถนัด อย่าว่าแต่สองภาษาเลย แม้ภาษาไทยเอง เราก็เริ่มที่จะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องน่าห่วงที่โบราณท่านได้ตักเตือนไว้แล้ว
ประเด็นสำคัญที่สุด ที่อาจารย์ยักษ์ห่วงก็คือ กระแสการลงทุนที่เฮละโลกันมาจะทำให้เราสูญเสียที่ดินเป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าข้าวปลาอาหารจะแพง ข้าวจะยากหมากจะแพงจริง แต่ข้าวแพงก็ใช่ว่าชาวนาจะดีใจ ได้ขายข้าว ได้ราคา เพราะเมื่อถึงวันที่ข้าวราคาแพงถึงที่สุด ที่ดินก็จะไม่อยู่ในมือชาวนาอีกต่อไปแล้ว ชาวนาในอนาคตน่าจะอยู่ในรูปแบบของบริษัทแน่นอน ทุนในอนาคตก็จะมาจากต่างชาติ ที่ดินก็อาจจะอยู่ในรูปของบริษัทไทย ชื่อไทย แต่เจ้าของกลับกลายเป็นต่างชาติไปหมด เมื่อถึงวันนั้น ข้าวจะราคาแพงมหาศาล แม้แต่ชาวนา สุดท้ายก็ต้องไปซื้อข้าวกินแล้วก็เจ๊ง
ฉะนั้น อาจารย์ยักษ์เชื่อมั่นว่าในยุคสมัยข้างหน้า คนไม่เชื่อโบราณจะบานบุรี ชีวิตจะอยู่ได้ยากเหลือเกิน แม้ว่าจะอยู่ได้ก็จะต้องอยู่แบบทุกข์ทรมาน อดๆ อยากๆ แต่สำหรับคนที่เชื่อโบราณทำการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นำมาสอนเอาไว้ ก็จะอยู่ได้อย่างมั่นคง สิ่งที่อาจารย์ยักษ์เป็นห่วงเรื่องที่สองและเป็นเรื่องหลัก คือทำอย่างไรที่จะให้คำโบราณ และคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงเพียรเตือนเอาไว้ จะได้เผยแพร่ขยายออกไป ทำอย่างไรจะสามารถกระตุ้นให้ประชาชนได้ลงมือปฏิบัติกันอย่างจริงๆ จังๆ ฝากทุกคนช่วยอาจารย์ยักษ์คิด และหากคิดได้ ไม่จำเป็นต้องมาบอกกล่าวอาจารย์ เพียงอยากให้ช่วยลงมือทำกันเลย จะได้ไหมครับ +
แหล่งที่มา:
พอแล้วรวย คม ชัด ลึก ฉบับวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2555