9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
การพัฒนาอย่าทิ้ง "วัด"
งานชุมนุมปราชญ์เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นงานที่จัดขึ้นโดยมุ่งเป้าหมายให้ “วัด” เป็นศูนย์กลาง และดึงความร่วมมือของชาวบ้านเข้าร่วม รวมทั้งภาคราชการทั้งหมด ต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดท่านให้เกียรติมาร่วมงาน และมาอยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน กับประชาชน กับคนทำงาน ทั้งพระทั้งเณร ทุ่มเทกันเพื่อที่จะทำให้การถ่ายทอดความรู้ ความรอบรู้ของพระเจ้าอยู่หัวไปสู่ประชาชน สร้างความศรัทธาให้ประชาชน เป็นแนวทางของการพัฒนาที่ย้อนกลับมาหาวัด ให้วัดเป็นศูนย์กลาง
ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ ภาพที่เห็นคือ ทั้งแกนนำชาวบ้าน 12 คน ชาวบ้านโดยรอบ ทั้งพระ เณร เยาวชน เด็ก ทหาร และทีมจากวิวัฒน์พลเมืองเข้ามาทุ่มเท เนรมิตงานให้เกิดขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ เป็นที่ประทับใจของทุกคน จนสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในงาน ผู้คนที่เข้ามาในงานต่างประทับใจกับกิจกรรม ณ ลานบุญ ลานธรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลานทาน” ที่แสดงผลของทานอันมีฤทธิ์ ด้วยการแจกผลไม้ให้รับประทานกันฟรี ด้วยความเชื่อมั่นว่า อาหารนั้นไม่ใช่ของที่มีไว้จำหน่ายแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ จึงควรแจกเป็นทาน การแสดงฤทธิ์ของทานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ สะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่า ผู้คนในสังคมนี้ต่างไม่เชื่อในวิถีแห่งบุญ ทานและธรรมแล้ว หลายคนแปลกใจคิดว่าให้กินก่อนแล้วจะมาเก็บเงินทีหลังหรือเปล่า
คงจะเพราะคุ้นชินกับเรื่องราวเหล่านี้ในสังคม สิ่งที่เคยเป็นวิถีแต่ดั้งเดิมของคนไทย จึงกลายเป็นแปลกแยกไปในเวลานี้ แต่งานครั้งนี้ก็ได้หวนกระแสบุญ ทาน ธรรม กลับมาอีกครั้ง ในส่วนของลานวิถีวัฒนธรรม ซึ่งนอกจากจะจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติจากหน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่น้อมนำแนวทางพระราชดำรัสไปปฏิบัติแล้ว ยังได้ฟื้นคืนวิถีชุมชน ด้วยการออกร้านของชาวบ้านแท้ๆ ที่ทำอาหารแบบบ้านบ้านมาจำหน่าย โดยเน้นให้เกิดการเห็นคุณค่าของวิถีวัฒนธรรมแต่ดั้งเดิมของไทย โดยเฉพาะชาวไทญวน และไทลาวที่เป็นคนท้องถิ่น จึงได้มีโอกาสเห็นวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่หลากหลาย ทั้งขนมกวน ขนมเปี่ยง ขนมหม้อแกง หมี่ญวน ฯลฯ
ในขณะเดียวกันก็แทรกความสนุกสนานรื่นเริงด้วยการละเล่นท้องถิ่น เท่านี้ก็เรียกความสนุกสนานให้แก่ทั้งคนออกร้าน และคนมาร่วมงาน เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้น คือเนื้อแท้ของคนตรงนั้นจริงๆ มันจึงไม่เฟค ไม่เสแสร้ง ซึ่งคนที่มาเที่ยวก็สัมผัสได้ และเดินชิม เดินซื้อ เดินชมได้อย่างสบายใจ เสน่ห์ของงานจึงอยู่ตรงนี้ และนี่คือผลที่สะท้อนเป็นความสุขของปวงประชา ที่อยู่ดี กินดี มีพอกิน พอใช้จากการเดินตามแนวทางพระราชดำรัส และจากก้าวที่หนึ่งซึ่งพระองค์ท่านทรงเริ่มไว้ให้ หากคนไทยทุกคนจะได้ตระหนักในความเป็นจริงของธรรมชาติของคนไทย ความเป็นอัตลักษณ์ของสังคมไทย แล้วย้อนกลับสู่รากเหง้าของเรา โดนเดินตามอย่างทฤษฎีต่างๆ ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ ยึดมั่นว่าการพัฒนาต้องไม่ให้ห่างวัด สังคมไทยคงจะไม่ไร้รากเหง้า หลงเงา หลงทิศ อยู่อย่างทุกวันนี้
หากจะให้ดีอาจารย์ยักษ์อยากให้คิดกันเอาไว้ทุกครั้งว่า “การพัฒนาอย่าทิ้งวัด” มั่นในบุญ ทาน ธรรม และจะเห็นฤทธิ์ของสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกว่าไม่มีจริงใน พ.ศ.นี้
อาจารย์ยักษ์ มหา'ลัยคอกหมู