9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
วิถีบ้าน บ้าน ไม่ใช่วิถีชุ่ย ชุ่ย
ใกล้จะถึงงาน "มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดิน" งานประจำปีของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ และถือเป็นวันที่พวกเราชาวเครือข่ายจะกลับมาพบกันปีละครั้ง เพื่อร่วมรำลึกและทบทวนปรัชญา อุดมการณ์และอุดมคติร่วมกัน
ปีนี้กำหนด Theme งานคือ “วิถีบ้าน บ้าน ผ่านวิกฤติได้จริง” หรือ Climate Change Adaptation : The Ground Work Solutions ให้ตามทันความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ ที่เห็นๆ กันอยู่ว่าเกิดวิกฤติรายวัน ที่เห็นชัดคือ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างตั้งตัวไม่ทัน ทั้งแผ่นดินไหวที่ไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ที่ทำให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมาย้ำว่า ไครสต์เชิร์ชจะต้องเจอกับภัยพิบัติแผ่นดินไหว ที่เกิดจากอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องอีกอย่างน้อยเดือนละครั้ง เป็นระยะเวลายาวนานเป็นปี
หลังภัยพิบัติที่ไครสต์เชิร์ชไม่กี่วัน ประเทศโบลิเวียก็ต้องประสบกับชะตากรรมอันเลวร้าย จากฝนที่ตกหนักติดต่อกันจนทำให้น้ำท่วม และดินถล่มเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่มาก บ้านเรือนกว่า 400 หลังคาเรือนถล่มลงจมดิน ถนนหนทาง ไหลตามดินภูเขาที่เลื่อนถล่ม ผู้คนกว่า 5,000 ชีวิตสูญสิ้นทรัพย์สินแบบสิ้นเนื้อประดาตัว ยังไม่นับรวมกับความสูญเสียชีวิตของครอบครัว ญาติพี่น้อง
วิกฤติที่ถี่และหนักขนาดนี้ ทำให้ผู้คนให้ความสนใจว่า “วิถีบ้าน บ้าน” ที่เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติเชื่อมั่นว่า ผ่านวิกฤติได้จริงนั้น เอาเข้าจริงแล้วจะผ่านได้อย่างไร ซึ่งอันที่จริงแล้วโจทย์นี้ไม่ง่ายที่จะตอบ แต่ก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ เมื่อธรรมชาติได้ตอบด้วยตัวเองแล้วว่า วิถีโลกาภิวัตน์นั้นนำพาความพิบัติมาสู่มนุษย์ จากการเสียสมดุลธรรมชาติ จนกลายเป็นวิกฤติที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ตัวกระจ้อยคิดว่าตัวเองเล็กเกินไปที่จะแก้ ต่างพยายามทำลืม ลืม และละเลย หรือบ้างก็คิดไปเลยว่า ถ้ามาก็ตายเท่านั้น ช่วยไม่ได้ เลี่ยงไม่ได้ เมื่อคิดเช่นนี้ก็ไม่คิดจะปรับ จะเปลี่ยนวิถีตัวเอง โลกจึงหมุนตัวเข้าหาความเลวร้ายทุกขณะนาที
หากเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ หรือสมุทัยนั้นคือ โลกาภิวัตน์ การจะรับมือกับทุกข์ให้ได้นั้น จำเป็นต้องมองเห็นนิโรธ หรือสภาวะที่พ้นทุกข์ แล้วจึงเดินตามมรรค คือทางดับทุกข์ อันเป็นแนวทางดับทุกข์ตามหลักอริยสัจ 4 ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หากเรามองเห็นทุกข์จากเหตุ คือโลกาภิวัตน์ และความดับทุกข์ หรือนิโรธนั้น คือสภาวะที่อยู่ดี มีสุข ปราศจากภัยพิบัติ และวิกฤติการณ์ ทางดับทุกข์ หรือการผ่านคลื่นโลกาภิวัตน์ไปให้ได้นั้น ก็คือ การรับมืออย่างมีสติและตระหนักรู้เท่าทัน และด้วยการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ Localization เท่านั้น ซึ่งอาจารย์ยักษ์ใช้คำว่า “ผ่าน” หาใช่ “ต้าน” นั้น ก็เพราะอาจารย์ยักษ์อยากให้เห็นภาพของการเดินผ่านคลื่นที่เข้ามาปะทะเรา
หากเราขืนต้านทานคลื่นที่แรงอย่างบ้าคลั่ง เราก็คงจะล้มลงหรือยืนอยู่ได้แต่ไม่อาจเขยื้อนไปไหนเพราะมัวแต่ต้านแรง ดังนั้นหากเราจะผ่านคลื่นนั้นไปให้ได้ เราต้องมีขาที่แข็งแกร่ง และความกล้าในหัวใจที่พร้อมจะเดินฝ่ากระแสคลื่นที่ถาโถม และการเคลื่อนไหวอย่างถูกต้อง พอเหมาะ พอสมก็จะทำให้เรา “ผ่าน” ไปได้ และไปถึงจุดหมายในที่สุด
อาจารย์ยักษ์นิยาม Localization ด้วยภาษาใหม่ว่า “วิถีบ้าน บ้าน” ซึ่งต้องกำหนดให้ชัดว่า วิถีบ้าน บ้าน ที่เป็นเครื่องมือในการผ่านวิกฤตินั้นหมายถึง วิถีบ้าน บ้าน ในทางที่ดี ที่สร้างสรรค์ บางคนว่าวิถีบ้าน บ้าน คือ ความชุ่ย ความอะไรก็ได้ อย่างไรก็ได้ ทำอะไรตามใจคือไทยแท้นั้นไม่จริงเลย วิถีบ้าน บ้านที่แท้จริง คือวิถีของคนขยัน ฉลาด เรียบง่าย อดทนอดกลั้น และมีความเพียรอันบริสุทธิ์
คนโบราณนั้นฉลาดทั้งการกิน การใช้ เป็นคนตื่นเช้าขยันทำมาหากิน แต่ใช้ชีวิตที่ประหยัด เรียบง่ายและมีศีลธรรมกำกับวิถีชีวิต ซ้ำยังเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน วิถีแบบนี้ต่างหากที่เป็นวิถีบ้าน บ้าน ซึ่งหากใครนำมาปฏิบัติในปัจจุบันจะเป็นเครื่องมือให้ผ่านวิกฤติทุกประการได้จริง
พระเจ้าอยู่หัวทรงชี้ให้เห็นความสำคัญของสิ่งนี้ จากพระราชดำรัสที่ว่า “คนโบราณรู้ว่า เมื่อไหร่ควรทำอะไร ที่ไหนควรทำอะไร” นั่นคือความหมายของการเลือกปฏิบัติให้ถูกต้อง เหมาะสมตามกาละ-เทศะ และภูมิสังคมนั่นเอง
และในงานมหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดิน : วิถีบ้าน บ้าน ผ่านวิกฤติได้จริงปีนี้ ชาวเครือข่าย ที่เป็นชาวบ้าน บ้านก็จะได้นำเอาวิถีที่ว่านี้ ที่ดี ที่เป็นแบบอย่างได้มานำเสนอ เพื่อให้เป็นตัวอย่างนำไปทำให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้วิถีที่ดีนี้ขยายจากวันงาน 17-19 มีนาคม ออกไปให้ได้ 365 วัน จากวิถีบ้าน บ้าน ต้นแบบให้ลามออกไปทั่วประเทศ ทั่วโลก รับรองว่าจะหยุดโลกร้อนได้จริง!
"อ.ยักษ์ มหา’ลัยคอกหมู"