9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
อาหารเป็นหนึ่งในโลก
จำได้ว่าในยุคที่เขมรกำลังจะแตกและโลกกำลังประหวั่นพรั่นพรึงว่าประเทศไทยจะล้มเหมือนโดมิโน ตกอยู่ภายใต้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์เหมือนประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว เขมร เวียดนาม ขณะนั้นฝรั่งมังค่าที่กลัวว่าประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศปิดไม่ให้ใครเข้าออก ก็แห่พากันมาเที่ยวถ่ายรูปวัดวา สถานโบราณสวย ๆ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เห็นอีก แต่ประเทศไทยก็รอดพ้นมาได้ มาในช่วงเวลานี้ ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยมเต็มตัว แต่ก็กำลังถูกล่าอีกเช่นกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเคยพระราชทานสัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศ Mr. Denis D. Gray and Bart McDowell จากนิตยสาร National Geographic ฉบับเดือนตุลาคมปี 2525 ในคอลัมน์ Thailand’s Working Royalty ว่า
“Our country is rich, and strategic. So that if there is any struggle in the world, people want to get this country. And there’s always a struggle in the world. We still stand here. We stand here for the good of the whole world.” ถอดความเป็นภาษาไทยได้ว่า “ประเทศของเราเป็นประเทศที่มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ และอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ หากมีการต่อสู้ แย่งชิงเกิดขึ้นในโลก ใคร ๆ ก็อยากได้ประเทศนี้ และโลกก็มักจะมีการต่อสู้แย่งชิงกันอยู่เสมอ ๆ (ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม) ประเทศของเราจะยังคงยืนอยู่ที่นี่ จะยืนหยัดอยู่ที่นี่เพื่อประโยชน์ของคนทั้งโลก”
ในยุคสมัยนี้การแย่งชิงเกิดขึ้นเพราะโลกกำลังเข้าสู่ภาวะการ “ขาดอาหาร” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทอดพระเนตรเห็นการณ์ไกล และรู้ว่าการแย่งชิงอาหารจะเกิดขึ้น จึ้งทรงเตือนให้คนไทย “สร้างอาหาร” แทนการ “สร้างโรงงาน” ถึงเวลาที่โลกเดือดร้อนเรื่องอาหาร โรงงานก็จะกลายเป็นขยะที่ไม่มีใครอยากได้ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “อาหารเป็นหนึ่งในโลก” ถึงที่สุดแล้วมนุษย์ทุกคนก็ต้องกลับมาหาสัจจธรรมข้อนี้ คงไม่ต้องพูดให้เสียเวลาอีกว่า สัจจธรรมข้อนี้เริ่มเห็นเด่นชัด ขณะนี้คนทั้งโลกกำลังกังวล และ กังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึง “ความมั่นคงทางอาหาร” ความแปรปรวนของอากาศ สภาพแวดล้อม ทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นที่หาอยู่หากินของคนนับร้อยล้านคน ทั้งชายฝั่งทะเล พื้นราบ ป่าเขา หมดสภาพเป็นที่อยู่ที่หากินอีกต่อไป เพราะภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่อาจคาดเดาได้ คำพูดของพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงประกาศว่า “ประเทศของเราจะยังคงยืนอยู่ที่นี่ จะยืนหยัดอยู่ที่นี่เพื่อประโยชน์ของคนทั้งโลก” เหมือนดั่งจะรู้ว่าประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในความหวังที่จะช่วยโลกบรรเทาทุกข์เรื่องอาหารได้ในยามวิกฤติ และวันนี้ทุกคนต่างเล็งมาที่ประเทศไทย ทวีปเอเซีย ทวีปอาฟริกาในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของโลก สำหรับประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ คนทั้งโลกจึงอยากได้ประเทศนี้เหมือนที่พระองค์ทรงตรัสไว้
แต่อาจารย์ยักษ์กลับแปลกใจในขณะที่คนทั้งโลกกำลังห่วงพะวงกับ “อาหาร” รัฐบาลไทยกลับห่วงสนามบิน ถนนหนทาง ทุ่มเงินหลายหมื่นล้านขนภูเขาจากบ้านนอกเข้ามาสร้างสนามบินในเมืองกรุง ยังคงปล่อยให้บ้านนอกที่เป็นแหล่งผลิตอาหารต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ดินถล่ม ซ้ำซากอยู่อย่างนี้ชั่วนาตาปี และเมื่อยามที่ชาวบ้านทะเลาะกับอุตสาหกรรม ก็ดูเหมือนรัฐบาลจะเข้าข้างอุตสาหกรรม เรียกร้องให้ชาวบ้านยอมเสียสละ ไม่รู้รัฐบาลคิดไม่ได้หรือไม่อยากคิดว่า การเสียสละของชาวบ้านคือการเสียสละของธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่มีค่ายิ่งต่อชีวิตลูกหลาน
การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ที่นั่งในกรุงเทพฯ แบบถล่มทลายคราวนี้อาจารย์ยักษ์ก็ยังไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์คิดเข้าข้างตัวเองว่า ประชาชนเอาด้วยกับทุกนโยบาย บางทีชาวบ้านอาจไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสมอไป การเลือกประชาธิปัตย์ แค่เป็นการ “บอยคอต” ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ที่เห็น ๆ ประชาคมโลกเริ่ม “เบื่อ” การเมืองมากขึ้นทุกวัน ผลการเลือกตั้งในอังกฤษ ออสเตรเลียที่ไม่มีพรรคไหนได้เสียงข้างมาก เริ่มบอกถึงความอดทนกับนักการเมืองที่เหลือน้อยลงทุกที
บางทีอีกไม่นาน ชาวบ้านทั่วโลกก็จะตั้ง “รัฐอิสระ” ของตนขึ้นมาชี้ชะตาตัวเอง อาจารย์ยักษ์เดาว่าอีกไม่นานเกินรอ ถึงตอนนั้น “นักการเมือง” ที่ไม่เคยคิดถึงประชาชนก็จะกลายเป็น “ซากดึกดำบรรพ์” ที่ไม่มีใครอยากขุดขึ้นมา
อาจารย์ยักษ์ มหา'ลัยคอกหมู