9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
โลกสวยด้วยมือเรา 1
ณ วันนี้ไม่มีใครกล้าปฎิเสธอีกต่อไปว่าโลกกำลังเข้าขั้นวิกฤติ เสมือนโลกกำลังเป็นโรคพุ่มพวงที่ภูมิต้านทานกำลังกัดกินตัวเองอยู่ ไม่มีใครจะสามารถช่วยโลกได้อีกต่อไปถ้ามนุษย์ที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ช่วยตัวเองด้วยการหยุด “เผา” หรือเติมเชื้อไฟที่จะทำลายให้ภูมิต้านทานของโลกต่ำลงไปกว่านี้ หลักการง่าย ๆ คือใช้ชีวิตที่รู้จัก “พอ” และลงมือสร้างโลกสวยอีกครั้งด้วยมือเราเอง อาจารย์ยักษ์ขอเสนอแนะวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
1 ปลูกต้นไม้อย่างน้อยคนละต้น 66 ล้านคน อย่างน้อยเราจะได้ต้นไม้ 66 ล้านต้นที่จะเพิ่มออกซิเจนให้กับโลก ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือนอกเมือง คอนโด หรือบ้านถ้าตั้งใจจะปลูกต้นไม้ก็คงมีวิธีปลูกจนได้ แม้กระทั่งประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีแต่ตึก คนสิงคโปร์ก็เริ่มโครงการปลูกข้าวบนตึกสูงแล้ว
2 สนับสนุนอาหารไร้สารพิษ เพื่อหยุดการปลูกที่ต้องอาศัยสารเคมีและยาฆ่าแมลง ตัวการทำลายดินและทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษ เมื่อคนหยุดซื้ออาหารที่มีสารพิษ คนผลิตก็จะหยุดผลิตไปเอง นอกจากนี้เราต้องกินอาหารสดให้มากที่สุด หยุดกินอาหารอุตสาหกรรม อาหารที่ผลิตเป็นอุตสาหกรรมนั้นนอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแล้วยังมีกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงาน ทรัพยากรน้ำจำนวนมาก ซ้ำร้ายต้องทิ้งกากพิษและน้ำเสียจำนวนมากลงสู่แหล่งน้ำ รวมทั้งยังต้องสูญเสียเงินทองจำนวนมากในการบำบัด คนโบราณอยู่ได้เป็นร้อย ๆ ปีโดยไม่ต้องมีอาหารกระป๋องเลย อาหารอุตสาหกรรมจึงถือเป็นของเกินความจำเป็น และกลายเป็น “อาหารขยะ” ที่รุมเร้าทำลายสุขภาพของเราเสียด้วยซ้ำ คิดแล้วมนุษย์ก็ดูจะโง่ที่แปลงอาหารดีมาเป็น “ขยะ” เข้าสู่ร่างกายตนเองพร้อมทิ้ง “ขยะ”สู่โลก จึงไม่น่าแปลกใจที่มนุษย์ทุกวันนี้มีร่างกายที่เป็นที่สะสมของ “เซลล์ขยะ” หรือเซลล์มะเร็งนั่นเอง แล้วเราก็ต้องทุ่มเทเงินทองจำนวนมากไปเอาเซลล์ขยะออกจากร่างกาย และ 80% ก็ลงเอยด้วยความตาย มะเร็งจึงกลายเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งในศตวรรษนี้เสียแล้ว
3 รู้จักรีไซเคิล “น้ำ” หลายประเทศการใช้น้ำของครัวเรือนถูกกฎหมายเข้ามาควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น ประเทศออสเตรเลีย การใช้สายยางฉีดน้ำสะอาดมือหนึ่งรดน้ำต้นไม้หรือล้างรถถือว่า “ผิดกฎหมาย” ในประเทศอังกฤษ ฉี่ 5 ครั้งจึงจะกดชักโครกหนึ่งครั้ง ในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ถือเป็นธรรมเนียม “อาบน้ำ 1 เพลงจบ” เมื่อเข้าห้องน้ำอาบน้ำพอเพลงจบก็ควรต้องออกจากห้องน้ำแล้ว ใครที่อยู่ห้องน้ำใช้น้ำนานเป็นชั่วโมงจะเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของคนอื่น สำนึกในการใช้น้ำอย่างระมัดระวังถือเป็นสำนึกร่วมกันของสมาชิกทุกคน ทางการก็จะเตือน “วิกฤติระดับน้ำ” ให้ประชาชนรู้ทุกวัน ไม่รู้ว่าประเทศไทยคนโชคดีหรือขาดสำนึก การใช้น้ำจึงยังฟุ่มเฟือย เรามักจะเห็นพฤติกรรมที่ปล่อยให้น้ำไหลล้นอ่างลงคูโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร น้ำล้างผัก น้ำลางจาน น้ำจากการซักผ้า แม้กระทั่งน้ำที่เราอาบน้ำควรถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ระบบบ่อพักน้ำที่ใช้แล้ว ควรถูกนำกลับมาเป็นวิถีชีวิตในบ้านอีกครั้งเพื่อลดการใช้น้ำ “มือหนึ่ง” ที่ต้องผ่านการผลิตราคาแพง
4 กำจัดขยะ ณ จุดเริ่มต้นคือที่บ้าน เพราะการหมักหมมของขยะคือแหล่งที่มาของก๊าซ “มีเทน” ตัวการสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้โลกร้อน แต่มาตรการที่สำคัญที่สุดคือ การลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดด้วยการ “ซื้อแต่พอดี กินแต่พอดี” จำไว้ว่า การผลิตอาหารทุกชนิดใช้ปุ๋ย ใช้ดิน ใช้พลังงาน ใช้น้ำ การใช้ล้นเกิน หรือกินล้นเกิน จึงเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในการผลิตและการกำจัด แต่เมื่อมีขยะ จำเป็นต้องเรียนรู้ตั้งแต่การแยก และการกำจัดเองในบ้าน เพื่อลดการหมักหมมจนเกิดก๊าซมีเทน และลดการขนส่งเพื่อนำไปกำจัดซึ่งต้องสูญเสียพลังงานอีก วิธีการง่าย ๆ ของการกำจัดขยะ ณ จุดเริ่มต้นคือ การนำขยะ “สด” กลับมาเป็นปุ๋ยใหม่ด้วยวิธีการหมักแบบชีวภาพ
เห็นไหมว่า “ความสบาย” ทำให้มนุษย์ลำบาก คงจึงเวลาที่คนยุคเราจะต้อง “ลำบาก” อีกครั้งเพื่อให้ลูกหลานเราได้สบาย เข้าตำรา ถ้าตั้งตนอยู่ในความลำบาก “กุศลธรรม” เจริญ ถ้าตั้งตนอยู่ในความสบาย “อกุศลธรรม” เจริญ
อาจารย์ยักษ์ มหา'ลัยคอกหมู