9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
จากภูผา...สู่...มหานที
“จากทุ่งนา ผ่านภูผา สู่ มหานที” ฟังดูคล้ายๆ กับเป็นลำนำของกวีเอกคนใดคนหนึ่งที่กำลังพร่ำพรรณาถึงความงดงามของธรรมชาติที่ดื่มด่ำใจ แต่ใครจะรู้ไหมว่ามีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 600 ชีวิตเท่านั้นที่รู้ว่า คำลำนำดังกล่าวหาใช่กวีนิพนธ์ของใครไม่ แต่นี่คือ “ยุทธศาสตร์ในการกู้วิกฤติ” ชาติ เป็นยุทธศาสตร์ที่จะกอบกู้ให้ประเทศนี้รอดพ้นจากภัยพิบัติ 4 ด้านที่กำลังรุมล้อมเราอยู่ทั้ง ภัยธรรมชาติ ภัยสงคราม ภัยข้าวยากหมากแพง ภัยโรคระบาด เป็นยุทธศาสตร์การเคลื่อนทัพพลิกฟื้นแผ่นดินไทยให้กลับมามั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์เช่นเดิม
ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะความยากจน เพราะผู้คนพากันทำลาย เริ่มต้นด้วยการทำลาย ดิน ที่อยู่ของทุ่งนา จากนั้นทำลาย ป่า แหล่งสถิตของภูผา และ สุดท้ายทำร้าย ทะเล มหานทีที่พักพิงของสัตว์ใหญ่น้อย กุ้งหอยปูปลา ชีวิตธรรมชาติทั้งหมดกำลังตกอยู่ในอันตราย การนำพาให้ประเทศรอดพ้นวิกฤติครั้งนี้จึงต้องหยุดการทำลายตั้งแต่ผืนนา ภูผาจนถึงทะเล ไปพร้อมๆ กัน ไม่สามารถเลือกองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งได้ เพราะทุกอย่างเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวถึงกันหมด เหมือนดั่งคำพูดที่ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ฉันใดฉันนั้น
การระดมสรรพกำลังในการพลิกฟื้น ดิน ท้องทุ่ง ให้กลับมามีชีวิต สะอาด ปราศจากสารเคมี ด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้รับการขานรับจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ถึงคราที่ยุทธศาสตร์การกู้วิกฤติจะต้องระดมสรรพกำลังเคลื่อนสู่ภูผาและมหานที ในการนี้เรามีจังหวัดชุมพรเป็นต้นแบบของการขับเคลื่อนในการฟื้นฟูผืนน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ โดยมี “ระเบิดจุลินทรีย์”“ซั้ง” เป็นอาวุธสำคัญ และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขบวนการขับเคลื่อนเพื่อฟื้นฟูลุ่มน้ำทั้ง 25 ลุ่มน้ำของประเทศ ขบวนการชุมนุมพลที่ชุมพรในการเดินทางจาก ภูผา สู่ มหานทีครั้งนี้ถือเอาฤกษ์เอาชัย ในวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่าน (ซึ่งเป็นวันที่ พ่อหลวง เมื่อ 11 ปีก่อนในปี 2541 ได้เสด็จมาที่หนองใหญ่ จังหวัดชุมพร ที่ตั้งของโครงการแก้มลิง โครงการที่ช่วยให้ชาวชุมพร รอดพ้นจากภัยพิบัติน้ำท่วมจากพายุลินดามาแล้ว) ในวันนี้มีขุนพล นักรบเกษตรโยธินร่วม 600 ชีวิตได้รวมพลกันที่ต้นน้ำ ภูผาป่า พะโต๊ะ พร้อมระเบิดจุลินทรีย์ ร่วมแสนลูกที่ชาวบ้านได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการผลิต กระจายกำลังกันตามลำน้ำพะโต๊ะ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เอาระเบิดจุลินทรีย์ที่ได้เตรียมไว้ ระดมกันขว้างปาลงไปยังลำน้ำตามจุดที่กำหนดไว้ ระเบิดจุลินทรีย์จะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้จุลินทรีย์ในน้ำกระฉับกระเฉงทำงานกินของเน่าเสีย ทำให้น้ำสะอาด รวมทั้งสร้างแหล่งอาหารให้กุ้งหอยปูปลา เพิ่มออกซิเจนและความสมบูรณ์ของสายน้ำให้กลับคืนมา จากภูผาผืนป่าพะโต๊ะ เหล่าขุนพลนักรบในวันเดียวกันก็เคลื่อนพลลงมหานที โดยมีพลรบประมาณ 200 ชีวิตในแต่ละจุดกระจายกำลังกันลงท้องทะเลแนวชายหาดทุ่งวัวแล่น และเกาะพิทักษ์ ระดมพลปลูกป่าชายเลนกัน ขว้างระเบิดจุลินทรีย์ร่วม 84,000 ลูกลงสู่ท้องมหานที ด้วยความมั่นใจว่าระเบิดจุลินทรีย์นับหมื่นๆ ลูกเหล่านี้จะสร้างปาฏิหารย์เรียกออกซิเจนและความสมบูรณ์ของท้องทะเลให้กลับมา เหมือน พระสังข์เรียกปลา อย่างไรอย่างนั้น งานนี้เราพร้อมท้ารบกับนักวิทยาศาตร์ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า กองทัพระเบิดจุลินทรีย์ของเราจะสร้างค่า D.O (ค่าออกซิเจนละลายในน้ำ dissolved oxygen) ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง รวมทั้งภูมิปัญญาการอนุบาลสัตว์น้ำที่เรียกว่า “ซั้ง หรือ กล่ำ” จะเป็นตัวเร่งในการสร้างหนอนแดง ไรแดงอาหารชั้นดีของสัตว์น้ำ สร้างวงจรชีวิต ความสมบูรณ์ของลำนำและท้องทะเลด้วยหลักชีวภาพง่ายๆ ราคาถูกที่พวกเราสามารถทำเองได้ เสร็จภารกิจจากภูผาสู่มหานที ขุนพลนักรบทั้งหมดก็ร่วมกันประกาศปฏิญญาหนองใหญ่ ภายใต้ร่มเงาของต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ที่ “พ่อ” ปลูกในวันที่ 20 มิถุนา เมื่อ 11 ปีก่อน ดั่งจะเป็นคำมั่นสัญญาจาก “ลูก” ถึง “พ่อ” ว่า พวกเราจะสานต่อภารกิจของ “พ่อ” ปลูกต้นไม้ลงในใจคนทั้งหกสิบล้านคน และจะไม่หยุดจนกว่าภารกิจกู้วิกฤติชาติจะบรรลุชัย
อาจารย์ยักษ์ มหา'ลัยคอกหมู