ในทุกวิกฤติจะมีโอกาสแฝงอยู่เสมอ ในภาวะที่ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤติรอบด้านโดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจที่ผู้คนตกงานกันเป็นเรือนแสนเรือนล้านท่ามกลางวิกฤติภัยธรรมชาติที่นับวันจะสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศมากขึ้นทุกที หากวิเคราะห์ให้ดีนี่ถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่รัฐบาลจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางอาหารดังที่ได้ประกาศไว้ ด้วยแนวคิด เกษตรโยธิน นักรบเกษตร  การสู้รบในสงครามที่มีรูปแบบ นอกจากอาวุธยุทโธปกรณ์แล้ว กองกำลังทหาร ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการรบ  การรบกับภัยพิบัติที่จะสั่นคลอนความมั่งคงทางอาหารก็คงไม่ต่างอะไรกับการสู้รบในสนามจริงที่ต้องมีกองกำลังที่เข้มแข็งรู้การศึกเป็นอย่างดี

รัฐบาลกำลังจะทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากเพื่อแก้ปัญหาคนตกงาน หากยังวนเวียนอยู่ในกรอบคิดเดิมก็จะเอาคนตกงานมาฝึกอาชีพ แล้วก็ส่งกลับบ้าน เพื่อกลับไปตกงานที่บ้านเพราะเมื่อกลับไปแล้วก็อาจจะไม่มีงานรองรับอีกเพราะภาคอุตสาหกรรมกำลังล่มสลาย  นอกจากนี้ยังมีคนตกงานอีกจำนวนมากที่ไม่มีบ้านให้กลับเพราะได้ทิ้งถิ่นฐานของตนมานานแล้ว เมื่อฝึกอาชีพใหม่แล้วคนเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร ในขณะที่ภาคเกษตรคืออนาคตของประเทศทั้งในการสร้างความพอเพียงด้านอาหาร และทั้งในการจุนเจือเพื่อนมนุษย์ชาติอื่น ๆ ที่กำลังขาดแคลนอาหาร แนวคิดเกษตรโยธิน เป็นการเปลี่ยนคนตกงานให้เป็นกองทัพมหึมาถือจอบแทนการถือปืนมาพลิกฟื้นแผ่นดินไทยให้อุดมสมบูรณ์เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอีกครั้ง สร้างป่า สร้างต้นน้ำลำธาร สร้างฝายคูคลอง ด้วยแนวคิดเช่นนี้จึงจะเป็นการสร้างพื้นฐานความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศอย่างแท้จริง

เกษตรโยธินไม่ได้จำกัดแค่คนตกงานเท่านั้น แม้แต่คนติดยาเสพติด นักโทษ ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นเกษตรโยธินที่มีคุณภาพได้ นักโทษหลายคนที่เคยได้ผ่านหลักสูตรเกษตรโยธินก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเค้าสามารถเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนชีวิตเป็นคนที่มีอาชีพกลับไปดูแลพ่อแม่เป็นคนดีของสังคมได้  หลายคนอาจตั้งคำถามว่าเกษตรเป็นงานหนัก คนหลายคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเกษตรกร ไม่อาจสู้งานหนักได้ คนเหล่านี้จะทำอะไร หากจำลองภาพกองทหารก็จะเห็นว่าในกองทหารไม่ได้มีเฉพาะนักรบ ยังมีผู้ปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นอีกมาก เราจะมีเกษตรโยธินที่มิได้ต้องลงมือทำเกษตรเองแต่มีภารกิจออกไปช่วยเหลือเกษตรกรในฐานะผู้ช่วย ในฐานะผู้ประสานงาน ในฐานะคนช่วยดูแลผลผลิต ในฐานะคนแปรรูปอาหาร ในฐานะคนเก็บรวบรวมข้อมูล ในฐานะคนคิดค้นนวัตกรรมด้านเกษตร และอีกหลาย ๆ ภารกิจที่จำเป็นต่อการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องตระหนักว่าคนตกงานเรือนหมื่นเรือนแสนเหล่านี้จะเป็นกองกำลังสำคัญในการรบกับวิกฤติที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ หากเราชี้ให้พวกเค้าเห็นว่านอกจากเงินสนับสนุนที่พวกเค้าจะได้ในการยังชีพแล้ว ภารกิจที่พวกเค้ากำลังแบกรับอยู่เป็นภารกิจที่มีคุณค่ายิ่งเปรียบเสมือนกองกำลังปกป้องประเทศให้พ้นจากภัยพิบัติ เชื่อแน่ว่าคนเหล่านี้จะเป็น กองกำลังเกษตรโยธินที่ยอม “สู้ตาย”

“อาจารย์ยักษ์ มหา’ลัยคอกหมู”