9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
กองกำลังขับเคลื่อน เศรษฐกิจพอเพียง 1
เป็นที่น่ายินดีว่าคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีมติจัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นการประกาศเจตจำนงและให้ความสำคัญของปรัชญานี้ในฐานะ ยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศตามแนวทางที่ได้วางไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 “รัฐบาลจะต้องคิดถึงภาพรวม เพราะภาพรวมจริงๆแล้วความพอเพียงคือปรัชญาที่ ส่งเสริมความสมดุลความยั่งยืนและแทนที่จะคิดว่าให้เศรษฐกิจโตมากขึ้น ทำไมไม่คิดเรื่องการเติบโต ที่อยู่กับความเป็นจริงและมีความเป็นธรรม ดังนั้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเรื่อง ความพอประมาณสมเหตุสมผลและ การสร้างภูมิคุ้มกันต้องถือเป็นทิศทางหลักในการบริหารทั้งหมด”
นี่คือความเห็นส่วนหนึ่งของคุณอภิสิทธิ์ต่อความเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงที่กล่าวในการเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรูปธรรมในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน" เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2549 ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และยืนยันว่าหากประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลก็จะทำนโยบาย เศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรมและให้ชัดเจนในทุกพื้นที่ โดยเน้นที่กระบวนการการเรียนรู้ ไม่ต้องเน้นรูปแบบและปริมาณ และให้เป็นวาระแห่งชาติ
ใน พ.ศ. 2552 เมื่อประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และเมื่อประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องร่วมชะตากรรม ในผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”จึงเป็นยุทธศาสตร์ของชาติไม่ใช่ในฐานะ “ทางเลือก”หรือ สิ่งที่ประชาธิปัตย์ต้องรักษาคำพูด แต่เป็น “ทางรอด”ทางเดียวที่เหลืออยู่ ดูเหมือนรัฐบาลฉลาดพอที่จะรู้ว่าในขณะที่ต้อง “เยียวยา”มะเร็งต่าง ๆ ของสังคม อันเป็นผลมาจาก “ระบบบริโภคนิยม ทุนนิยมเสรี”และเนื้อร้ายกำลังลุกลามแสดงอาการอยู่
รัฐบาลก็ต้องอัดฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้ “ฐานราก”ของสังคม โดยเฉพาะ “ฐานคน และฐานทรัพยากร”แม้อาจจะไร้เดียงสาถึงรูปธรรมและวิธีการ แต่เจตนาที่ดีก็ทำให้ผู้คนอยากเข้ามา ร่วมด้วยช่วยกัน ในการกอบกู้วิกฤติที่สาหัสสากรรจ์ครั้งนี้ อีกไม่ช้าเราก็คงจะได้เห็น กำปั้น ทรงพลังของเบญจภาคี อันประกอบด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน วิชาการ ภาคประชาชน ประชาสังคมและสื่อ ที่จะประกอบร่างเป็น “กองกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง” ภายใต้กองทุนนี้ในการเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับประเทศ
โดยมีภารกิจในการฟื้นฟู คน และ ทรัพยากร เป็นภารกิจเร่งด่วน และมีคนดีอย่างคุณมีชัย วีระไวทยะ ที่มีความเข้าใจอย่างดีถึงภูมิสังคมของท้องถิ่นเป็นหนึ่งในหัวขบวน รวมถึงนักวิชาการที่ไม่ยึดติดตำราฝรั่ง ข้าราชการเลือดนักสู้ที่ไม่ยอมสิโรราบให้กับอำนาจมืดในระบบราชการ อีกทั้งเอกชนที่มีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ผนวกเข้ากับเครือข่ายประชาสังคมที่คลุกคลีอยู่กับภูมิปัญญาท้องถิ่นมายาวนาน มีสื่อสำนึกดีร่วมเป็นองค์ประกอบของขบวน งานนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่า รัฐบาลจริงใจ ไม่หน่อมแน้ม หรือ ปากว่าตาขยิบกับการประกาศให้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นวาระแห่งชาติและเป็นยุทธศาสตร์หลัก ในการสร้างความสมดุลและความยั่งยืนของการพัฒนาประเทศหรือไม่ จะอย่างไรก็ตามกำปั้นอันทรงพลังของเบญจภาคีที่ว่ามานี้ไม่ได้อยู่เพื่อคอยมีดดาบจากรัฐบาล แต่ได้ประกอบร่างและเร่งทำงานตาม ปรัชญาแห่งการพึ่งตนเองรวมทั้งได้สร้างผลงานมากมายมาแล้ว รัฐบาลต่างหากฉลาดพอที่รู้จัก “ใช้”กองกำลังขับเคลื่อนขบวนนี้เพราะเชื่อว่างานนี้รัฐบาลได้ผลงานเต็ม ๆ
“อาจารย์ยักษ์ มหา’ลัยคอกหมู”