9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
เผาจริง
ประเทศไทยเปิดศักราชปี 2552 ด้วยการเผา ความประมาทได้คร่าชีวิตผู้คนในวันเริ่มต้นปีใหม่ร่วม 60 กว่าชีวิตในคลับขึ้นชื่อกลางเมืองหลวง ดูจะเป็นลางให้เราต้องใคร่ครวญอย่างจริงจังถึงการทำนายทายทักว่า ปี 2552 นั้นเป็นปีแห่งการ “เผาจริง”ภัยต่าง ๆ ที่เราคนไทยพบพานมาในปี 2551 นั้นเป็นแค่การ “เผาหลอก” ผู้คนต่างก็รู้สึกตระหนกตกใจว่าอาการเผาหลอกก็ทำให้หลายคนต้องตายจริง แล้วการ “เผาจริง”จะทำให้ผู้คนล้มประดาตายมากมายแค่ไหน ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ ภัยสังคม ภัยการเมือง ล้วนส่ออาการที่เผาเราให้ได้ตายจริง ๆ
อาจารย์ยักษ์ก็อยากให้คนไทยทุกคนตั้งสติ ยึดหลัก เศรษฐกิจพอเพียง เป็นธงนำในการดำรงชีวิต ทั้งวิธีคิดและการกระทำ เชื่อในหลักคำสอนที่ว่า“มโนบปุปพังคมา ธรรมา มโนเสฏฐา มโนมยา”ใจเป็นประธานเหนือสิ่งทั้งปวง จงเชื่อว่า ใจที่มีพอและรู้จักพอ จะนำความสุขแท้มาให้ ท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอน แต่ใจที่สงบเยือกเย็นและนิ่ง เข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง จะเป็นตัวช่วยผดุงให้เราเห็นทางออก หาทางสว่างให้กับชีวิตได้ หากมองในทางบวก วิกฤติต่าง ๆ ที่คนไทยและคนทั้งโลกกำลังประสบอยู่ได้ทำให้เรากลับมามอง ตั้งคำถาม ทบทวนตัวเองถึงวิธีคิด การดำรงชีวิตว่าเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้องหรือไม่ ปัญหาต่าง ๆที่พอกพูนขึ้น ทวีความรุนแรงมากขึ้นในทุกมิติของชีวิตน่าจะเป็นคำตอบว่า ทิศทางที่เราเดินไป เรากำลังเดินทางผิด การเปลี่ยนแปลง การพัฒนาทั้งหมดที่เกิดขึ้นควรทำให้ชีวิตดีขึ้น มีความสุขขึ้น ธรรมชาติ ทรัพยากรควรสมบูรณ์มากขึ้น แต่การกลับตรงกันข้าม คนมีความสุขน้อยลง คนจนมากขึ้น คนเจ็บป่วยมากขึ้น สภาพแวดล้อมรอบตัวเสื่อมโทรมลง การกลับมาตั้งคำถามย้อนคิดและเริ่มตระหนักกับข้อเท็จจริงในวิกฤตินี้เข้าได้กับสัจธรรมที่ว่า
“เห็นทุกข์ จึงเห็นธรรม”การมีทุกข์จึงทำให้เราเห็นสภาพความเป็นจริงของชีวิตที่แจ่มชัดขึ้น เมื่อรู้ความจริงแล้วว่าเส้นทางที่เดินไปนั้นผิดก็ไม่ย้อนรอยเดิมแต่เลือกทางใหม่ รวมทั้งเข้าใจมิติใหม่ของความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งที่เกี่ยวร้อยกันเป็นลูกโซ่ดังว่า
แม้ เด็ดดอกไม้ ก็สามารถสะเทือนถึงดวงดาวได้ วิกฤติจึงเป็นโอกาสที่มนุษย์จะเริ่มต้นเดินทางใหม่บนเส้นทางแห่งความพอเพียง ที่ไม่ลุ่มหลง เร่าร้อน โลภโมโทสัน แต่เป็นเส้นทางแห่งความพอดี มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญมีคุณค่าแห่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และการพึ่งตนเอง อยู่บนพื้นฐานของการไม่แย่งชิงและเบียดเบียนกันและกัน หากคนไทยเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยแนวคิดนี้ อาจารย์ยักษ์ก็เชื่อว่าเราจะค่อย ๆ ได้สังคมแห่ง “ความผาสุก”ที่เคยเป็นมาในอดีตกลับคืนมา สังคมแห่งความสมบูรณ์ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว”กลับคืนมา สังคมแห่ง “ความสามัคคี ปรองดอง”กลับคืนมา สังคมแห่ง “น้ำใจและมิตรภาพ”กลับคืนมา สังคมแห่งการมี “อายุมั่นขวัญยืน” กลับคืนมา
รอยยิ้มที่เลื่องลือของ “ยิ้มสยาม”จะเป็นรอยยิ้มที่สามารถหยุดความร้อนจากการ“เผาจริง”ได้อย่างแน่นอน
“อาจารย์ยักษ์ มหา’ลัยคอกหมู”