อาจารย์ยักษ์เคยพูดถึงสูตรยาใหม่ เพื่อรักษามะเร็งร้ายในสังคมไทย ด้วยการปฏิวัติ ๕ ระบบ ที่ประกอบด้วย การปฏิวัติระบบจิตสำนึกทางสังคม ที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของคนประกอบด้วย ระบบการศึกษา ระบบสื่อมวลชน การปฏิวัติระบบโครงสร้างของสังคมหรือระบบโครงสร้างร่างกายของคนก็คือ ระบบเศรษฐกิจ ระบบการเมือง และระบบราชการ  ถ้าสังคมไทยปฏิบัติด้วยยาสูตรใหม่ ๕ ขนานนี้ อาจารย์ยักษ์เชื่อมั่นลึกๆ ว่าสังคมไทยจะหายป่วยไข้จากมะเร็งร้ายได้แน่นอน วันนี้อาจารย์ยักษ์ขอเริ่มต้นด้วยประเด็นแรก คือ การปฏิวัติระบบการศึกษา เพราะถือว่าการจะนำพาสังคมไทยให้หลุดพ้นจากโมหภูมิได้ต้องปฏิวัติระบบการศึกษาที่เป็นขุมพลังทางปัญญาของสังคม ระบบการศึกษาที่ยึดมั่นในหลักการคุณธรรมนำความรู้เปรียบดั่งหัวรถจักรที่จะขับเคลื่อนนำพาสังคมบนวิถีแห่งสัมมาทิฐิเพื่อให้เป็นประเทศที่ยอดยิ่งยวดได้ด้วยความพอเพียง การศึกษาในยุคการเมืองใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฏิวัติแบบถอนรากถอนโคนจิตวิญญาณของคนในสังคมไทย หลังจากถูกมอมเมาจากกระแสทุนนิยมสามานย์ และบริโภคนิยมแบบบ้าคลั่งกว่า ๕ ทศวรรษ  ณ วันนี้ ทฤษฎีทางการศึกษาของชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกากำลังพิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นแล้วว่าการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐศาสตร์แบบทุนนิยม กำลังจะถึงทางตันและก่อเกิดเป็นโรคพิษร้ายแฮมเบอร์เกอร์ กลายพันธุ์เป็นโรคระบาดแสดงพิษสงแทรกซึมเข้าไปในระบบเศรษฐกิจของอังกฤษเจ้าตำรับเศรษฐกิจการค้า ก่อให้เกิดอาการร้อนๆหนาวๆ เหมือนคนกำลังจะเป็นไข้ของสถาบันทางการเงินทั่วโลก  รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย  แม้ในวิกฤต ย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ

          อาจารย์ยักษ์นึกถึงคำสอนของพระองค์ท่านที่ว่า “การแก้ไขวิกฤตการณ์...มันต้องถอยหลังเข้าคลอง จะต้องอยู่อย่างระมัดระวัง แล้วต้องกลับไปทำกิจการที่อาจจะไม่ค่อยซับซ้อนนัก..มีความจำเป็นที่จะถอยหลังเพื่อที่จะก้าวต่อไป”  มหาอำนาจข้าวโลกอย่างเมืองไทย ต้องเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของโลก สถานการณ์ยอมสร้างวีรบุรุษ สังคมไทยวันนี้ต้องกล้าหมุนกลับคืนสู่รากเหง้า “เราควรถอยหลังเข้าคลอง เพราะในคลอง คลื่นลมมันสงบ”  ทั่วโลกต่างยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าทรงเป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” และยอมรับว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นทางรอดของโลกในยุคปัจจุบัน องค์การสหประชาชาติทูลเกล้าถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” หมดยุคที่คนไทย ใกล้เกลือ กินด่างแล้ว  ถึงเวลาที่สังคมจะยึดมั่นอุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียงเป็นธงนำในการจัดการศึกษา ระบบการศึกษาใหม่ในวันนี้ต้องเปลี่ยนคนให้เป็นฅนให้ได้ เปลี่ยนจากคนไร้วินัย ให้เป็นฅนมีวินัยมีศีลธรรม เปลี่ยนจากคนทำอะไรไม่เป็น เป็นฅนมีทักษะงานหลายด้าน เปลี่ยนจากคนหาจุดเด่นไม่เจอ เป็นฅนเชี่ยวชาญบางวิชา รวมทั้งมีวิญญาณนักพัฒนา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้าง “สัมมาอาชีวะให้เต็มแผ่นดินไทย”

          เมื่อวันที่ ๑๗-๑๘ มีนาคมปีนี้ เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ จัดงานครบรอบ ๒ ทศวรรษคืนชีวิตให้แผ่นดินที่มาบเอื้อง เครือข่ายของเราทั่วประเทศร่วมกันประกาศปฏิญญามาบเอื้องด้านการศึกษา ใจความว่า “เราจะรุกก้าวเข้าร่วมปฏิรูปการศึกษาของชาติโดยการมุ่งศึกษาที่ตน ฝึกตน สู่การหมุนกลับให้การศึกษา หันเห็นคุณค่าการศึกษาที่มองเห็นวิถีและชีวิตของสรรพสิ่งบนความเอื้ออาทร และหลีกหนีทุนนิยม หลีกอัตตานิยม มาสู่สายกลางแห่งเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้เบญจภาคีสร้างจุดเริ่มต้นบนภูมิรู้ที่พ่อสอน เพื่อหลุดจากโมหะภูมิ ที่มีก้าวเริ่มตามรูปแบบโพธิวิชชาลัย” 

“นับแต่อุปราช จนถึงคนรักษาช้างคนรักษาม้า และนับแต่คนรักษาม้าจนถึงอุปราช และโดยเฉพาะเหล่าอมาตย์ ล้วนจาริกในโมหะภูมิทั้งนั้น พวกนี้ขาดทั้งความรู้วิชาการ ทั้งความรู้ทั่วไป คือความสำนึกธรรมดา” ใจความสำคัญของพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ที่สังคมไทยควรตระหนัก  เหตุการณ์ในวันนี้แสดงความจำเป็น หรือยังสำหรับเมืองไทยของเรา  ณ วันนี้เครือข่ายของอาจารย์ยักษ์ได้ริเริ่มโครงการจัดการศึกษาตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชื่อโครงการต้นแบบโพธิวิชชาลัย จ.สระแก้ว  โดยความร่วมมือจากกลุ่มเบญจภาคีจังหวัดสระแก้ว ประกอบด้วย ภาคีภาคประชาชน  ด้วยการสร้างห้องเรียนชุมชน ๙ ห้องเรียน ภาคีภาคราชการ และความมั่นคง จังหวัดสระแก้ว และหน่วยทหารพัฒนา ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง ภาคีภาควิชาการ โดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดสระแก้ว และโรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตการศึกษาจังหวัดสระแก้ว ภาคีภาคเอกชน  บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) และภาคีภาคประชาสังคมและสื่อ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติและศูนย์พัฒนาข้อมูลและสื่อทางเลือกจังหวัดสระแก้ว โดยขณะนี้สภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อนุมัติหลักสูตรระดับปริญญาตรีเศรษฐกิจพอเพียง กำลังเปิดรับนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระแก้วรุ่นที่ ๑ จำนวน ๓๕ คน แล้ว นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการเอาจริงเอาจังด้านการปฏิวัติระบบการศึกษาของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ที่กำลังสร้างของจริงให้ปรากฏบนแผ่นดินไทย