9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
ปั้นดินให้เป็นดาว
เมื่อเราพูดถึงการปั้นดินให้เป็นดาว คนทั่วไปจะเข้าใจว่า เป็นการปั้นเด็กสาวจากบ้านนอกคอกนาให้มาเป็นดาราในกรุง แต่การปั้นดินให้เป็นดาวในที่นี้เป็นภารกิจที่สำคัญและยากยิ่งกว่าการปั้นสาวบ้านนอกให้เป็นดาวในความหมายทั่วไป เพราะเป็นการปั้น คนแก่ ที่เปรียบเสมือนดินที่แตกระแหง ที่อยู่ในอาการ หมดสภาพ หมดกำลังใจ หมดหนทาง หมดเรี่ยวแรง ที่ซ้ำร้ายหมดปัญญา ให้ลุกขึ้นสู้กับชีวิต อีกครั้ง หลังจากที่ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน คนแก่ ที่พวกเราเรียกว่า ชาวนา กระดูกสันหลังของชาติ คำนิยามที่ให้แต่การยกย่องในคำพูด แต่ไม่เคยได้รับการเคารพยกย่องจริงจัง จริงใจจากสังคม
โครงการฟื้นฟูเกษตรกรพักชำระหนี้ เป็นที่มาของภารกิจ ปั้นดินให้เป็นดาวในครั้งนี้ เกษตรที่มีหนี้สินเข้าข่ายต้องเข้าโครงการฟื้นฟูเพื่อสร้างวิถีทำกินที่ยั่งยืน มีสมาชิกร่วม 300,000 คน ถือเป็นภารกิจ ปั้นดิน ให้เป็น ดาว ครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งที่มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เข้าร่วมขานรับภารกิจครั้งนี้ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ไม่ต้องย้อนถามให้ซ้ำซากว่าเกษตรกรเหล่านี้ยากจนได้อย่างไร ต้องย้อนถามว่า ประเทศปล่อยให้เกษตรกรเหล่านี้ตกอยู่ในวังวนแห่งวัฏจักรความชั่วร้าย ยากจน หมดสภาพ หมดที่พึ่ง หมดกำลงใจ ไม่เห็นแสงสว่างในชีวิตจนอายุล่วงเข้าวัยชรา 60-70 ได้อย่างไร ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใดเมื่อถึงวัยเกษียณ ก็เป็นช่วงที่สังขารได้ส่งสัญญาณว่าร่างกายต้องพักแล้ว มิควรต้องทำงานหนักอีกต่อไป แต่สภาพที่เห็นคือ แม้เข้าสู่วัยชราที่ร่างกายเริ่มหมดเรี่ยวแรง แต่ผู้เฒ่าเหล่านี้ยังมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไร้ที่ทำกินเป็นของตัวเอง มิหนำซ้ำ ลูกหลานก็ทิ้งพ่อเฒ่าแม่แก่ไปใช้ชีวิตในเมือง ปล่อยให้ต้องผจญชะตากรรมในท้องไร่ท้องนาอย่างเดียวดาย ต้องใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดหาเงินเพื่อชดใช้หนี้ต่อไป
ภารกิจในการฟื้นฟูให้ผู้เฒ่าเหล่านี้กลับมามีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เพียงแต่สามารถชดใช้หนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด แต่ยังสามารถดำรงชีวิตพ้นขีดความยากจน มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมผู้อื่น ทั้งหมดดูจะเป็นภารกิจที่เรียกว่า impossible mission ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่อาจารย์ยักษ์ก็เชื่อว่าที่ใดที่มีวิกฤต ที่นั่นก็มีโอกาส ตราบใดที่ผู้เฒ่าเหล่านี้ ยังมีลมหายใจ ตราบนั้นเราก็ยังมีความหวัง แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การปลุกกำลังใจให้ จิต ที่เป็นนาย ชี้นำ กาย ที่เป็นบ่าว ลุกขึ้นมาสู้ชีวิตอีกครั้ง หากเชื่อในพลังจิต ทุกสิ่งก็เป็นไปได้ เมื่อปลุกกำลังใจให้ลุกขึ้นสู้เพื่อทางรอดแล้ว ปรับกระบวนคิด ความเชื่อ ทัศนคติที่มีต่อตนเองเสียใหม่ เรียนรู้วิถีทำกินที่ยั่งยืน สร้างกระบวนการกลุ่มที่สามารถดูแลเกื้อกูลกันระบบ “ลงแขก” ไม่ปล่อยให้ชาวนาผู้เฒ่าเหล่านี้ต้องต่อสู้ใช้เรี่ยวแรงตามลำพัง ความยากอยู่ที่เราเชื่อหรือไม่ว่า ผู้เฒ่าแม่แก่ 300,000 รายเหล่านี้ยังเป็นกำลังรบสำคัญในการ “คืนชีวิตให้แผ่นดิน” และ “คืนชีวิตให้ตนเอง” ถ้าเชื่อมั่นก็ไม่มีอะไรต้องสงสัย ลุยเลย