ขบวนการ “คืนชีวิตให้แผ่นดิน”

เมื่อความมุ่งมั่น ศรัทธา เกิดเป็นพลัง ผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อน จากคนเพียงหนึ่งคนที่ต้องการ คืนชีวิตให้แผ่นดิน 20 ปีผ่านไป ความมุ่งมั่น ศรัทธา และพลังดังกล่าวได้ก่อเกิดเป็น ขบวนการ คืนชีวิตให้แผ่นดิน ที่ผูกพันผู้คนร่วมแสน และนี่ก็เป็นที่มาของงาน มหกรรม 2 ทศวรรษคืนชีวิตให้แผ่นดิน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 มีนาคม 2551 ที่จะถึงนี้ภายในมหาลัยคอกหมู ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จังหวัดชลบุรี แหล่งก่อเกิดขบวนการดังกล่าว นอกจากจะเป็นงานที่รวมพลของคนรักแผ่นดินที่ปวารณาตัวจะเดินตามรอยเท้า “พ่อ” โดยยึดเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจแห่งการดำรงตน งานนี้จะยังเป็นการประกาศจุดยืนของขบวนการคืนชีวิตให้แผ่นดินที่รวมภาคีภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคมและสื่อ และภาคประชาชน ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดตัวอย่างความสำเร็จในทุกพื้นที่ของประเทศ และขยายผลจากระดับครัวเรือน ระดับชุมชน จนถึงระดับนโยบายของรัฐ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้าง “ที่ยืนที่มั่นคง” ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็นยุทธศาสตร์หลักของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10

อาจารย์ยักษ์ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้เชิญชวนให้ คนรักแผ่นดิน รักท้องถิ่น รักความเป็นไทยเข้ามาร่วมงาน ในงานจะมีภูมิความรู้ ภูมิปัญญาให้เรียนรู้มากมาย ตั้งแต่ความสำเร็จของการใช้เกษตรอินทรีย์ในการพลิกฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดิน เพิ่มผลผลิตที่มากมายก่ายกองที่เกษตรเคมีไม่อาจเทียบได้ เรียนรู้การพึ่งตนเองโดยการทำปุ๋ยชีวภาพใช้เองแทนการพึ่งปุ๋ยเคมี ซึ่งนับวันจะมีแต่แพงมากขึ้นและเป็นที่มาของหนี้สินมหาศาลของเกษตรกร เกษตรกรที่ใช้เกษตรอินทรีย์นับวันมีแต่จะดีวันดีคืน เพิ่มทั้งเงินเพิ่มทั้งความสุขจากการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ในงานยังจะมีอาหารและผลผลิตที่ปราศจากสารพิษมาให้กินให้ซื้อกัน มีองค์ความรู้ที่จะใช้ในชีวิตแห่งการพึ่งพาตนเองได้ง่ายๆ จากฐานเรียนรู้ 9 ฐาน

1 คนเอาถ่าน (เตาเผาถ่าน น้ำส้มควันไม้)
2 คนมีน้ำย่า (น้ำยาเอนกประสงค์)
3 คนมีไฟ (พลังงานทดแทนไบโอแก๊ส ไบโอดีเซล)
4 คนติดดิน (บ้านดิน ฐานอิฐ)
5 ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ (ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด น้ำหมักชีวภาพ)
6 คนรักป่า (ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง)
7 สมุนไพร
8 นาข้าว ข้าว และโรงสี
9 ฐานคนรักสุขภาพ

ขบวนการ คืนชีวิตให้แผ่นดิน นอกจากจะตระหนักถึงภารกิจในการเร่งฟื้นฟูฐานทรัพยากรดิน น้ำ ป่าให้กับประเทศแล้ว อีกภารกิจหนึ่งที่สำคัญเร่งด่วนไม่แพ้กันก็คือการช่วยกันลด “ภาวะโลกร้อน” ซึ่งได้แสดงอิทธิฤทธิ์ สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่มนุษย์บนโลกใบนี้อย่างประเมินค่ามิได้ และหากเราไม่เรียนรู้หรือร่วมมือกันอย่างจริงจังในการแก้ปัญหา ก็มีแนวโน้มว่าโลกจะถึงจุดวิบัติในเวลาไม่เกินทศวรรษนี้ ทั้งโลกกำลังเร่งระดมกันปลูกต้นไม้เพื่อลดภาวะโลกร้อน ในงานเราจะมีองค์ความรู้ในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนโดยใช้หลักคิด “ปลูกต้นไม้ได้โลก 5 ใบ” โดยการปลูกป่าด้วยไม้ 5 ระดับ สูง กลาง เตี้ย เลื้อยเรี่ยดิน และหัวใต้ดิน ซึ่งจะเป็นการพ่นความเย็นใส่โลกได้ทีเดียวถึง 5 เท่า ภาวะโลกร้อนที่มีอำนาจทำลายล้างมหาศาลล้วนมีเหตุมาจาก “จิตที่ไม่เพียงพอ” ของมนุษย์ จิตที่เต็มไปด้วยกิเลส ความอยากได้ อยากมีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อันมีผลให้มนุษย์ต้อง “ขุด ถอน โค่น” ทำร้ายธรรมชาติ จน ธรรมชาติมิอาจทนทานได้ การสร้าง “จิตที่พอเพียง” จึงเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ต้องกระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยผ่านการปฏิรูปการศึกษา เราจะมีนักวิชาการหัวใจพอเพียงที่จะมาถ่ายทอดความรู้และแนวปฏิบัติว่าเราจะสร้าง “เมล็ดพันธุ์ใหม่ เป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อให้” ไม่ใช่ “เมล็ดพันธุ์เพื่อเอา” กลับคืนสู่สังคมภายในห้องเรียน “โพธิวิชชาลัย” มหาวิทยาลัยเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไร

งานมหกรรม 2 ทศวรรษคืนชีวิตให้แผ่นดิน ยังจะเป็นงานที่รวมพล “สื่อพอเพียง” จุดประกายความคิด การใช้ สื่อ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์สังคมอย่างเป็นรูปธรรม
งานรวมพลคน “พอแล้วรวย” ดีๆ แบบนี้พลาดแล้วเสียใจนะอาจารย์ยักษ์จะบอกให้ อยากได้รายละเอียดติดต่อ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โทร.038 449 009