9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
คนไทยจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าไม่รู้จักพอ 2
คนไทยจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าไม่รู้จักพอ 2
ในฉบับที่แล้วเราพูดถึงการสูญเสียแผ่นดินจาก การสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลน อันเนื่องมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของมนุษย์ที่มีผลถึงการทำลายระบบนิเวศของป่าชายเลน หากการสูญเสียแผ่นดินกินขอบเขตกว้างขวางออกไปอีก ถ้าจะคำนวณเป็นตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจง่ายๆ ก็จะเห็นได้ชัดเจน เอาง่ายๆ ว่าประเทศไทยมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลเป็นระยะทาง 1,500 ไมล์ หรือ 2,400 กิโลเมตร ถ้าทะเลดูดกลืนแผ่นดินหายไปเหมือนกับพื้นที่ในหมู่บ้านสระบัวลึก 2 กิโลเมตร เราจะมีเนื้อที่จมหายไปในทะเลถึง 4,800 ตารางกิโลเมตร หรือ 4,800 ล้านตารางเมตร หากเปรียบเทียบเป็นการสูญเสียทางการเงิน เพียงคิดว่าตารางเมตรละ 100 บาท ไทยจะสูญเสียเนื้อที่ที่เป็นมูลค่าถึง 480,000 ล้านบาท ไม่เพียงเฉพาะเนื้อที่ชายฝั่งทะเลรอบประเทศไทย ที่เรากำลังสูญเสียไป ปัจจุบัน สถานการณ์การสูญเสียแผ่นดินในพื้นที่ภูเขา พื้นที่ราบ ก็กำลังรุนแรง ประเทศไทยมีเนื้อที่ 320.7 ล้านไร่ ปัจจุบันเนื้อที่ 123 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ทางเกษตร แต่พื้นที่ 93 ล้านไร่ กำลังอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมอย่างหนัก เป็นพื้นที่ที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ดินแห้งแล้ง มีภาวะเป็นกรด และที่เหลือก็กำลังถูกบุกรุก กำลังกลายสภาพเป็นพื้นที่ที่หมดสภาพ และอีกนั่นแหละสาเหตุทั้งหมดก็มาจากพฤติกรรมของมนุษย์อีกเช่นกัน จากการรุกพื้นที่ป่า และปลูกพืชเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพืชเชิงเดี่ยว ถาโถมของเป็นพิษ ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงอย่างไม่บันยะบันยัง ที่สำคัญขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าเหลือเพียง 17% อันเป็นปริมาณพื้นที่ป่าที่ไม่เพียงพอต่อการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ด้วยเหตุนี้ การสูญเสียแผ่นดินไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน โคลนถล่ม น้ำท่วม ดินแล้ง จะเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรซ้ำซากและจะมีสภาพที่หนักหน่วงรุนแรงขึ้นทุกปี แค่หลับตานึกภาพก็เห็นได้ชัดว่า ประเทศไทยจะจนลงแน่นอน เพราะฐานทรัพยากรที่สำคัญ คือ ที่ดิน อันเป็นแหล่งทำมาหากินนั้น ทรุดโทรมลงจนอยู่ในขั้นโคม่า ไม่เพียงแต่เราไม่สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างเต็มที่ หากเราต้องใช้เงินในการฟื้นฟูพื้นที่ 93 ล้านไร่นั้น ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิมนั้น เราต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ และหากจะหาทางแก้ปัญหาโดยการเดินตามฝรั่ง อย่างอเมริกัน ก็ต้องคิดให้หนัก
ลองมาดูว่า อเมริกาประสบปัญหาอะไร ในระยะเวลาประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา อเมริกาประสบปัญหาภัยทางธรรมชาติที่เป็นวัฏจักรซ้ำซากพอๆ กับประเทศไทย ถ้าไม่เจอไฟป่าในหน้าร้อน ก็เจอพายุหิมะในหน้าหนาว และที่เห็นชัดเจนก็คือความรุนแรง และผลกระทบของภัยธรรมชาติเหล่านี้หนักหน่วง ทำลายชีวิตและทรัพย์สินคนอเมริกัน มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนที่ได้รับผลกระทบขยายวงกว้างขึ้น แม้กระทั่งการเตรียมการ การป้องกันที่ถือว่าเยี่ยมยอดของระบบอเมริกันก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ ข่าวสนามบินต้องปิด เครื่องบินบินไม่ได้เพราะสภาวะวิสัยไม่ดี ผู้คนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์ช่วยเหลืออุบัติภัยเพราะไฟดับจากพายุหิมะ พายุทอร์นาโด เป็นข่าวที่เริ่มชินหูคนอเมริกันและคนทั้งโลก การพัฒนาแบบอเมริกันกำลังพบทางตัน คนอเมริกันกำลังตั้งคำถามและกังวลอย่างหนักว่าชีวิตในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร อเมริกันชนที่เคยมีบ้านหลังใหญ่ มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายก่ายกอง เริ่มคิดไม่ออกว่า ถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำมัน ชีวิตจะเป็นอย่างไร อดีตประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ก็ออกมาเตือนประชาชนชาวอเมริกันเร็วๆ นี้ว่า หากไม่เร่งทำอะไร โลกจะวิบัติจากภาวะโลกร้อนภายใน 6 ปี ประชาชนอเมริกันจะเดือดร้อนแสนสาหัส ไม่เพียงแต่อเมริกา อีกหลายๆ ประเทศก็กำลังประสบวิกฤตภัยธรรมชาติที่หนักหน่วงเช่นกัน เช่นออสเตรเลียที่บางรัฐต้องประกาศภาวะวิกฤตน้ำขั้นรุนแรงสูงสุด อาจารย์ยักษ์ฟันธงว่าแล้งที่กำลังจะมาถึงนี้คนไทยจะเดือดร้อนสุดๆ สงครามแย่งน้ำระหว่างภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมดูจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนไทยจะฆ่ากันเพราะ ไม่มีน้ำใช้ ทั้งหมดมาจากความ ไม่รู้จักพอ
ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง และการพึ่งตนเอง ตามรอยเท้า “พ่อ” คือทางรอดเพียงทางเดียวของสังคมไทย