9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
คนไทยจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าไม่รู้จักพอ 1
คนไทยจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าไม่รู้จักพอ 1
บ้านสระบัว ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านของ บังแอ (อดิเรก สร้อยวารี) พระเอกคนดังแห่งยุทธการพอเพียง ที่กำลังระดมชาวบ้านช่วยกันแก้ปัญหา แผ่นดินหาย จากการกัดเซาะของน้ำทะเล ปัญหา แผ่นดินหาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของชาวบ้านบ้านสระบัวไปเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันที่ดินริมทะเลหดหายไปแล้วร่วมระยะทางยาว 2.5 กิโล และลึกเข้ามา 2 กิโล คิดรวมแล้วเป็นเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ ที่ถูกทะเลกลืน คลองหลายสายกลายเป็นอดีตเหลือแต่ชื่อ บ้านที่เกาะชายถนนอีกหลายหลังกำลังจะมีโฉนดอยู่ในทะเล ชาวบ้านบ้านสระบัวกำลังจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ไม่ใช่เพราะสงคราม หรือ การรบราฆ่าฟัน แต่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่เพราะ “ธรรมชาติ” มาเอาคืน และธรรมชาติกำลังเอาคืนไม่เฉพาะบ้านสระบัว แต่อีกหลายๆ หมู่บ้าน ในตำบลท่าศาลา กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน เหมือนกับพื้นที่อีกหลายๆ จังหวัดของประเทศ และไม่แค่นั้น อีกหลายๆ ประเทศ ถ้ามนุษย์ยัง อหังการ์ ร่วมกันรุมเร้า รบราฆ่าฟัน ธรรมชาติต่อไป
ในอดีตบ้านสระบัว เป็นหมู่บ้านริมทะเลเหมือนอีกหลายๆ หมู่บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านหากินกับการจับกุ้งหอย ปู ปลา ทำประมงไม่เคยเกิดภัยพิบัติธรรมชาติร้ายแรงอะไร เพราะมีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเกราะกำบังภัยจากน้ำทะเลกัดเซาะ มีป่าโกงกางที่มีรากยาว หนาแน่น ยึดดิน กันคลื่นซัด ทำหน้าที่เป็น กำแพงธรรมชาติ ให้กับหมู่บ้าน รวมทั้งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยกุ้งหอยปูปลา อาหารที่ธรรมชาติมอบให้กับมนุษย์
เมื่อ “เงิน” เข้ามาบังตา ชาวบ้านพากันเปลี่ยนพื้นที่ป่าชายเลนให้เป็น บ่อกุ้ง เปลี่ยนพื้นที่ที่เคยเป็นป่าชั้นในให้เป็นพื้นที่ทำนา ทำสวนปาล์ม ไม่อยู่อย่างพอเพียงเหมือนในอดีต ทำลายระบบนิเวศของป่าชายเลน ทำอันตรายกับ กำแพงธรรมชาติ อย่างไม่รู้ตัว หากเปรียบเทียบปัญหาคนที่อยู่ริมทะเล ริมแม่น้ำ ปากอ่าว ซึ่งมีปัญหาแผ่นดินหายจากน้ำทะเลกัดเซาะ กับปัญหาดินถล่มในที่ที่เป็นภูเขา รูปแบบของปัญหาอาจจะแตกต่างกัน แต่ในเนื้อแท้ของปัญหาคือ ปม เดียวกัน ปมปัญหาที่มาจากการทำลายระบบนิเวศ ธรรมชาติรังสรรค์ให้ระบบนิเวศมีความสอดคล้องสมดุล ป่า ภูเขามีต้นไม้รากใหญ่เกาะยึดพื้นดินเป็น กำแพง ไม่ให้น้ำกัดเซาะจนดินถล่ม ธรรมชาติทะเลก็ให้มีป่าชายเลน มีรากของต้นโกงกางที่ยาว เกาะเกี่ยวยึดดินเลนเป็น กำแพง ไม่ให้ทะเลทำลายแผ่นดิน
ชาวบ้านบ้านสระบัวเริ่มเห็นปรากฎการณ์น้ำทะเลกัดเซาะจน แผ่นดินหาย ทีละนิด ปัจจุบันแผ่นดินหายเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเห็นบ่อยขึ้น มากขึ้น และเริ่มรู้ตัวว่าหากไม่เร่งแก้ไข ตนจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่จริงๆ การรวมตัวระหว่างกลุ่มชาวบ้าน นายกอบต. ผู้ใหญ่บ้าน เกิดขึ้นจากปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรง เพื่อเร่งหาทางแก้ปัญหา ดูเหมือนภาครัฐเอง ก็มีอาการไม่นิ่งนอนใจ หาทางแก้ปัญหาแผ่นดินหายอยู่เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถหลุดกรอบความคิดตะวันตก คิดอยู่แต่ การเอาชนะธรรมชาติ โดยการถม การสร้างกำแพงอิฐ เลียนแบบประเทศที่เจริญแล้ว แทนที่จะกลับมายังต้นตอ คือ การคืนสมดุลให้กับธรรมชาติ คืนความสมบูรณ์ให้ป่าชายเลน หามาตรการกันไม่ให้ชาวบ้านรุกล้ำป่าชายเลนอีก ถามหน่อยว่าพื้นที่ติดทะเลประเทศไทยยาวถึง 1,500 ไมล์ ถ้าแผ่นดินติดทะเลหายลึกเข้ามาเพียง 2 กิโลเมตร รัฐจะเอา ดินที่ไหนมาถมทะเล จะต้องใช้เงินสักเท่าไหร่ในการสร้าง กำแพงกันทะเล ธรรมชาติมีคำตอบให้อยู่แล้ว เพียงแต่ หัดฟัง และไม่ อหังการ์ ใช้ธรรมชาติดูแลธรรมชาติเท่านั้น หรือว่า วิถีธรรมชาตินั้น กินไม่ได้ เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่น ไม่เหมือน อิฐ ทราย ที่กินได้ ยิ่งต้องถมทะเล สร้างกำแพงล้อมทะเล รัฐยิ่งชอบเพราะ อิ่มท้องไปอีกนาน ลูกหลานใครจะฉิบหาย แผ่นดินใครจะหดหาย ก็เรื่องของ (…) (…) ไม่เกี่ยว
สำหรับชาวบ้านบ้านสระบัวก็คงต้องหาทางช่วยตนเองโดยอาศัยองค์ความรู้ที่ตนมี หาก รอ ภาครัฐอย่างเดียว ก็คงต้องไปเขียนโฉนดใหม่ในทะเลกันทั้งหมู่บ้าน