ในหลายตอนที่แล้ว เราพูดถึงศาสตร์พระราชาด้านการฟื้นฟูป่าโดยอาศัยนวัตกรรมหลากรูปแบบ เช่น การทำฝายชะลอน้ำ ป่าเปียก  ป่าภูเขา หลายแนวคิดอยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐที่ประชาชนเพียง 1 คนก็ทำไม่ได้ หลายแนวคิดเป็นการเพิ่มเนื้อที่ป่าในผืนป่าใหญ่ วันนี้อาจารย์ยักษ์ขอนำเอา แนวคิดการฟื้นฟูปฐพีไทยด้วยศาสตร์พระราชา ที่พสกนิกรทุกคนสามารถทำเอง แม้ในเนื้อที่เล็กๆ ด้วยแนวคิด ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างของพระองค์ท่านมานำเสนอ

     สำหรับหลายคนแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่แปลกใหม่เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน และมักจะคิดถึง การปลูกไม้ 3 ชนิดเท่านั้น พระองค์ท่านเคยมีพระราชดำริเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “…การปลูกป่าถ้าจะให้ราษฎรมีประโยชน์ให้เขาอยู่ได้ ให้ใช้วิธีปลูกไม้ 3 อย่าง แต่มีประโยชน์ 4 อย่าง คือ ใช้ไม้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำและปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วย โดยรับน้ำฝนอย่างเดียว ประโยชน์อย่างที่ 4 คือ ได้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ…”   แนวคิดนี้เป็นการปลูกป่าที่เลียนแบบระบบนิเวศของป่าธรรมชาติ พร้อมกับการเอื้อประโยชน์ให้มนุษย์ได้อาศัยยังชีพในป่าที่ปลูกขึ้น ขณะเดียวกันป่าที่ปลูกก็สร้างความยั่งยืน อุดมสมบูรณ์ให้กับดินและน้ำ เป็นจักรที่สมดุลต่อไป  ลองนึกภาพเล่นๆ ว่าหากทุกตารางนิ้วที่เป็นที่ดินว่างของประเทศนี้เต็มไปด้วย ป่า 3 อย่าง ประโยชน์  4 อย่าง จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เราจะกลายเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก มั่งคั่งไปด้วยข้าวปลาอาหาร ยารักษาโรค พร้อมสรรพไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ ดิน น้ำ ธัญญาหาร ให้กับคนทั้งแผ่นดิน และมีเหลือพร้อมที่จะเผื่อแผ่ให้กับคนทั้งโลกในยามวิกฤติได้

     ฟังดูแล้วอาจารย์ยักษ์กำลังเพ้อเจ้อหรือเปล่า แค่ป่า 3 อย่าง ที่ว่าจะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากความยากจนมาเป็นประเทศร่ำรวย มั่งคั่งได้อย่างไร หากคิดให้ลึกซึ้ง เราเคยเป็นประเทศร่ำรวยมั่งคั่ง เพราะเรามีป่า 3 อย่างมาก่อน แต่กลับยากจนลงเพราะความโลภ ผู้คนตัดป่าที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเสียจนแทบไม่เหลือพื้นที่ป่าจนเกิดเป็นวิกฤติธรรมชาติ กว่าจะรู้ตัวว่าทำผิด ก็สายเกินไปเสียแล้ว แต่ไม่เป็นไร ถ้าทุกคนยังตั้งใจช่วยกัน ร่วมใจกันที่จะพลิกฟื้น ขวานทอง ด้ามนี้โดยใช้ศาสตร์ที่พระราชาได้ให้แนวทางไว้ ก็เชื่อว่า ขวานทองที่กำลังจะหักบิ่นก็จะกลับมาเป็นขวานทองที่ทรงพลังและมีอานุภาพเหมือนเดิมได้  ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เป็นคำพูดง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่เป็นความคิดอัจฉริยะที่ก่อให้เกิดความพอเพียงที่เห็นชัดๆ ถึง 4 พอ คือ พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น โดยเฉพาะในภาวะที่โลกกำลังร้อนระอุ แนวคิด ป่า 3 อย่างได้สร้างประโยชน์นอกจากของตนแล้วยังเป็นประโยชน์ให้กับโลก ทำให้โลกร่มเย็นลง ลองนึกภาพว่าคน 60 ล้านคนที่ใส่เสื้อเหลืองปักด้วยอักษร “เรารักในหลวง” ลงมือปลูกป่า 3 อย่างตามแนวพระราชดำริ ลงในเนื้อที่ของตนเองเพียงคนละไร่ อะไรจะเกิดขึ้น  ประมาณกันว่า เนื้อที่ 1 ไร่ เราสามารถปลูกป่า ปลูกต้นไม้นานาชนิดได้ถึง 100 ชนิด ทั้ง 5 ระดับ ทั้งไม้สูง กลาง เตี้ย เรี่ยดิน ใต้ดิน ปริมาณต้นไม้ในเนื้อที่ 1 ไร่ปลูกได้มากถึง 500 ต้น หากคำนวณตามสูตรคณิตศาสตร์ง่ายๆ ว่า 60 ล้านคน คนละ 1 ไร่ ไร่ละ 500 ต้น ทั้งประเทศเราจะมีต้นไม้เพิ่มขึ้นมาทั้งหมด 30,000,000,000 (สามหมื่นล้านต้น) ที่เป็นไม้ที่ให้ที่อยู่ ที่กิน ที่ใช้ และความร่มเย็น อย่างนี้จะไม่ให้เราเชื่อได้อย่างไรว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ร่ำรวยและมั่งคั่งด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุด  แค่นึกก็หนาวแล้ว