9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
ฟื้นฟูปฐพีไทยด้วยศาสตร์พระราชา ขบวนการฟื้นฟูดิน 5
ฟื้นฟูปฐพีไทยด้วยศาสตร์พระราชา ขบวนการฟื้นฟูดิน 5
ฉบับที่แล้วเรากล่าวถึงดินที่อุดมสมบูรณ์ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และมีสิ่งมีชีวิตอะไรใต้ดิน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ที่เราเรียกว่า พระแม่ธรณี สำคัญอย่างไรกับพืช เราทิ้งท้ายกันไว้ว่า ดินที่อุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติจะเป็นเกราะกำบังอย่างดีไม่ให้เกิดโรคพืช การที่พืชเกิดโรค สะท้อนการขาดสมดุล และความไม่อุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งหมายถึงสิ่งมีชีวิตใต้ดิน ประสบการณ์ของนักกสิกรรมธรรมชาติได้รับการตอกย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่า หากดินอุดมสมบูรณ์และมีปริมาณของมีฮิวมัสที่มากพอ พืชก็จะสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ ที่มาจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสเองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องอาศัยยาฆ่าศัตรูพืชใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อสัตว์หรือคนกินพืชเหล่านี้เข้าไป สัตว์และมนุษย์ก็จะมีภูมิต้านทานโรคต่างๆ เช่นกัน
นักกสิกรรมธรรมชาติเชื่อว่า กิจกรรรมของจุลินทรีย์ที่รากของพืชเป็นตัวกำหนดสารอาหารและปริมาณของสารอาหารที่พืชต้องการ โดยผ่านกระบวนการเมธาบอลิซึมของพืช หากกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่ปลายรากถูกรบกวนด้วยเงื่อนไขใดๆ ก็ตาม เช่น การฉีดสารเคมี การเผา ก็จะมีผลกระทบกระเทือนถึงสารอาหารที่พืชจะได้รับและภูมิต้านทานโรคต่างๆ ของพืชด้วย
อันที่จริงร่างกายมนุษย์ก็ดูจะใกล้เคียงกับพืชที่ต้องมีกิจกรรมของจุลินทรีย์ในร่างกายอย่างเหมาะสม การแพทย์สมัยใหม่ก็ยืนยันข้อเท็จจริงนี้แล้วว่า เหมือนพืช ร่างกายมนุษย์มีทั้งจุลินทรีย์ที่เป็นคุณและเป็นโทษ หากจุลินทรีย์ที่เป็นโทษมีมากเกินไปมนุษย์ก็จะเกิดอาการเจ็บป่วย การทานยาปฏิชีวนะ (สารเคมี ) หรือที่เรียกว่า Antibiotics ในปริมาณที่มากและติดต่อกันนานๆ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เกิดผลกระทบกระเทือนกับจุลินทรีย์ที่เป็นคุณกับร่างกายไปด้วย ผลที่ได้คือ อาการป่วยไข้จะหาย แต่จะหายชั่วคราว หากต้นตอของโรคไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างถูกต้อง อาการป่วยไข้นั้นก็จะกลับมาอีก และเมื่อเรายังรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไปเรื่อยๆ การกลับไปกลับมาของอาการป่วยไข้ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลที่ตามมาในระยะยาวคือ ภูมิต้านทานโรคของร่างกายก็จะลดลงเรื่อยๆ การป่วยไข้จะเป็นบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น การแพทย์ปัจจุบันมีความเข้าใจวงจรชีวิตของจุลินทรีย์ในร่างกายมากขึ้น แทนการกิน antibiotics ปัจจุบันผู้คนก็เริ่มนิยมกิน จุลินทรีย์ดี ที่เรียกว่า probiotics เข้าไปเพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายมีจุลินทรีย์ชนิดดี เพื่อให้ร่างกายมีภูมิในการต้านทานโรค
โรคพืชที่เกิดขึ้นก็สามารถอธิบายได้ในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่จุลินทรีย์ที่พืชต้องการนั้นสร้างกิจกรรมต่างๆ ที่ปลายราก อีกสิ่งหนึ่งที่นักกสิกรรมธรรมชาติได้ค้นพบเกี่ยวกับจุลินทรีย์ในดินก็คือ จุลินทรีย์ไม่ได้มีความสามารถที่จะย่อยเฉพาะซากพืช ซากสัตว์เท่านั้น แม้แต่ก้อนหิน หินลูกรัง จุลินทรีย์ก็มีศักยภาพสูงพอที่จะย่อยสลายได้โดยอาศัยน้ำที่มีอยู่ในอากาศ อีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ไม่รู้แต่จุลินทรีย์รู้คือ ต้นไม้กินอะไร จึงมีรสเผ็ด รสหวาน รสขม รสเปรี้ยว และอีกสารพัดรสของพืช บรรพบุรุษไทยเลือดเนื้อเชื้อไขแฟนพันธุ์แท้ของกสิกรรมธรรมชาติก็ได้พิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่า หากรวมกับประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรของนักกสิกรรมธรรมชาติจากชาติต่างๆ ทุกคนต่างก็ออกมายืนยันเสียงเดียวกันว่า โรคพืชชนิดต่างๆ ป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ด้วยกรรมวิธีการเพิ่มฮิวมัส ที่มาจากการย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ของจุลินทรีย์ เพียงแค่นี้ พระแม่ธรณี ก็จะทำหน้าที่ของตนเองในการปกป้องลูกๆ จากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง รวมทั้งดูแลให้ลูกๆ ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ แข็งแรงและเจริญเติบโตพร้อมที่จะเลี้ยงดูมนุษย์ต่อไป ขอเพียงแต่มนุษย์เข้าใจวงจรชีวิต เข้าใจความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติ เคารพกฎเกณฑ์ของธรรมชาติในดิน และ หยุด “ฆ่าแม่” ก็จะทำให้ “แม่” มีกำลังมากพอที่จะดูแลลูก ให้ลูกดูแลเราต่อไป ดังคำพูดของนักกสิกรรมธรรมชาติที่ว่า
“feed the soil and let the soil feed the plants, and let the plants feed us”