9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
ฟื้นฟูปฐพีไทย ด้วยศาสตร์พระราชา
ฟื้นฟูปฐพีไทย ด้วยศาสตร์พระราชา
ในฉบับที่แล้ว เราได้กล่าวถึงฐานทรัพยากรไทยที่เสื่อมโทรมลงอย่างมากเพียงระยะเวลา 50 ปีที่เราเริ่มใช้แผน “พัฒนาประเทศ”ตามหลักคิดของทุนนิยมโลกาภิวัตน์ สิ่งที่ต้องตรึกตรองอย่างมากสำหรับสังคมไทยคือ ความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวยมั่งคั่ง ที่เราเคยมีหายไปไหน ไปอยู่ที่ใคร อเมริกาเพียงประเทศเดียวที่มีประชากรเพียง 3.3% ของประชากรโลก แต่ใช้ทรัพยากรของโลกมากถึง 30% อเมริกาเอาทรัพยากรมากมายมาจากไหน อเมริการ่ำรวยมากล้น ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกยังยากจนและอยู่อย่างประหยัดอดออม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เราตก “หลุมพราง” ของใครหรือเปล่า เราจะเอา “นคราแห่งความพอเพียง” ของเรากลับคืนมาอย่างไร
ท่ามกลางกระแสเชี่ยวกรากของโลกาภิวัตน์ ในความเป็นจริงก็พิสูจน์ว่าไม่ใช่เป็นสิ่งที่ง่ายนัก เพราะผู้ปกครองประเทศที่ผ่านมาส่วนใหญ่ทำหน้าที่ปกป้องดูแลผลประโยชน์ของฝ่าย “ทุน” อย่างขะมักเขม้น มิหนำซ้ำยังใช้กลไกทั้งหมดที่มีอยู่ดูแล “ทุน” ซึ่งดูดความมั่งคั่งทางทรัพยากรของสังคมไทยไป อย่างมิให้ใครมาแตะต้องการคืนสมดุลให้ธรรมชาติ ให้กับฐานทรัพยากร เป็นหนทางเดียวที่เราจะได้ นคราแห่งความพอเพียง กลับคืนมา แม้จะยากเพียงใด เราก็ต้องทำ สังคมไทยไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะนี่เป็นเพียงทางเลือกเดียวและทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ เสียงคร่ำครวญ พิโรธโกรธาของธรรมชาติที่เป็นอยู่ในขณะนี้บอกเราว่า การเดินตามโลกาภิวัตน์อย่างคนตาบอด อย่างไม่รู้จักสร้างภูมิคุ้มกันนั้น รังแต่จะนำภัยพิบัติ หายนะมาสู่สังคมเราเร็วขึ้น ธรรมชาติกำลังเรียกร้องขอความเป็นธรรมคืนจากมนุษย์ เพราะสิ่งที่มนุษย์ได้ “ทำลาย และ ทำร้าย” ธรรมชาตินั้น มันมากเกินกว่าที่จะรับได้ หากไม่เร่งแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นคนรวย สูงศักดิ์ หรือ ยากดีมีจน คนไทยทุกคน ณ วันนี้ล้วนตกอยู่ในชะตากรรมแห่งภัยพิบัติเดียวกัน การจะได้ นคราแห่งความพอเพียง คืนมานั้นต้องเร่งกระทำ ทั้งการปลูกรัก ปลูกสำนึก ลงในใจคน และ เร่งคืนชีวิตให้ธรรมชาติ เมื่อ “คน” เปลี่ยนจาก “ผู้ให้” ในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อนมาเป็น ผู้ “ทำลาย” ในปัจจุบัน ก็จำเป็นต้องเปลี่ยน “ผู้ทำลาย” ให้กลับมาเป็น “ผู้ให้” ดังเดิมให้ได้ หากระบบการศึกษาคือขบวนการสำคัญในการทำหน้าที่เปลี่ยน “พระเอก” ให้เป็น “โจร” ก็ต้องใช้ระบบการศึกษาเหมือนกันแต่ในเนื้อหาที่แตกต่างเปลี่ยน “โจร” ให้กลับมาเป็น “พระเอก” อีกครั้งหนึ่ง ขบวนการนี้ได้อรรถาธิบายในรายละเอียดไปแล้วในฉบับก่อนๆ
สำหรับขบวนการ คืนชีวิตให้ธรรมชาติ นั้น ต้องกล่าวว่าประเทศไทยโชคดีที่มี ผู้นำอัจฉริยะ ที่ได้คิดค้น ได้พัฒนา และวางแนวทางไว้เป็นตัวอย่างอยู่ทุกหย่อมหญ้าของประเทศไทย เพียงแต่เราใช้ ศาสตร์พระราชา เป็นหลักในการพลิกฟื้น เราก็จะได้ปฐพีไทยที่อุดมสมบูรณ์กลับมาอีกครั้ง มีใครเคยตั้งคำถามไหมว่า ทำไมองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไทยซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่กลับต้องมาวางรากฐานในการฟื้นฟูทรัพยากรประเทศไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดิน น้ำ ป่า ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์ ด้วยการ “สร้างตำราบนพื้นโลก” ที่ปรากฏอยู่ในโครงการพระราชดำริโครงการต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน พระองค์ทรงรู้ดีว่า ทรัพยากร คือ “ทุนธรรมชาติ” ที่สำคัญที่สุดที่ต้องปกปักรักษา หากปราศจากธรรมชาติที่สมดุล การพัฒนาอย่างยั่งยืนจะเป็นไปไม่ได้ ประเทศชาติจะตกอยู่ในภาวะยากเข็ญและจะล่มสลายในที่สุด
ขอยกตัวอย่างอัจฉริยะภาพในองค์ความรู้เรื่องป่าและการฟื้นฟูป่าในพระราชดำริตอนหนึ่งว่า
“การปลูกป่าทดแทนในพื้นที่เสื่อมโทรมหรือพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเป็นภูเขาหัวโล้น จำเป็นต้องปลูกป่าทดแทนเร่งด่วน ควรจะทดลองปลูกต้นไม้ชนิดโตเร็วคลุมแนวร่องน้ำก่อน เพื่อทำให้ความชุ่มชื้นค่อยๆ ทวีเพิ่มขึ้น และแผ่ขยายออกไปทั้งสองฟากของร่องน้ำ ซึ่งจะทำให้ต้นไม้งอกงาม และมีส่วนช่วยป้องกันไฟป่าเพราะไฟจะเกิดง่ายหากป่าขาดความชุ่มชื้น ในปีต่อไปให้ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่ถัดขึ้นไป ความชุ่มชื้นก็จะแผ่ขยายกว้างต่อไปอีก ต้นไม้จะงอกงามดีตลอดทั้งปี...”
หากพระราชดำรินี้ได้ถูกนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เชื่อว่า เหตุการณ์ไฟป่า และ หมอกควันพิษ ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือเมื่อหลายเดือนก่อนก็จะไม่เกิด หรือจะไม่รุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติดังเช่นที่เป็นอยู่
ในฉบับหน้าเราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง พลิกฟื้นนคราแห่งความพอเพียงด้วยศาสตร์ของพระราชา กันอย่างละเอียด
คมม