“มหันตภัยโลก” ที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่ 1

ฉบับนี้ขอนำเอาข้อมูลและการวิเคราะห์การเสี่ยงภัยที่คนทั้งโลกกำลังเผชิญอยู่มาเล่าสู่กันฟัง ให้เป็นข้อมูลและอุทาหรณ์ในการเฝ้าระวัง พร้อมกับการ “ตระเตรียม” ในรายงานการประชุม World Economic Forum ปี 2007 ในหัวข้อ  Global Risk ได้สรุปว่า โลกกำลังเผชิญอยู่กับภาวะ “อันตราย” หรือภาวะ “เสี่ยง” อยู่ถึง 23 เรื่องใหญ่ๆ โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้านดังนี้

ด้านเศรษฐกิจ
1 ราคาน้ำมันที่สูงเกินคาด พลังงานที่ขาดแคลนลง
2 ค่าเงินสกุลอเมริกันที่มีแต่นับวันจะอ่อนแอลง
3 การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่อาจหยุดชะงักอย่างรวดเร็ว
4 การเสียดุลการค้าของกลุ่มประเทศยักษ์ใหญ่ G8 บวกกับภาวการณ์ขาดดุลของประเทศใหญ่ๆ ในโลกอีกหลายประเทศ
5 ราคาสินค้า อสังหาริมทรัพย์ที่มีแต่ถีบตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ผู้คนมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น

ด้านสิ่งแวดล้อม
6 การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ
7 การขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ที่นับวันจะรุนแรงขึ้น
8 มหันตภัยธรรมชาติ พายุเขตร้อน
9 มหันตภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว
10 มหันตภัยธรรมชาติ น้ำท่วม

ด้านการเมือง และความขัดแย้ง
11 การก่อการร้ายระหว่างประเทศ
12 การพัฒนา และสะสมอาวุธสงคราม
13 สงครามการเมือง สงครามภายในประเทศ
14 ความขัดแย้งภายในประเทศที่มีแนวโน้มมากขึ้น เช่น ปัญหาภายในประเทศอาฟกานิสถาน ปากีสถาน โซมาเลีย
15 ปัญหาคอร์รัปชั่น และอาชญากรรมข้ามชาติ
16 กระแสการต่อต้านโลกาภิวัตน์ และ การฟื้นตัวของความเป็นชาตินิยม
17 ปัญหาความขัดแย้งในโลกตะวันออกกลางที่ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย

ด้านสังคมและสุขภาพ
18 การแพร่ขยายของโรคภัยไข้เจ็บ
19 โรคระบาดที่เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น ไข้หวัดนก
20 โรคร้ายแรง และโรคเรื้อรังในประเทศที่พัฒนาแล้วที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต เช่น โรคมะเร็ง
21 การพัฒนาสังคมที่ยึดกรอบความคิด ตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกัน เริ่มสะท้อนปัญหา และ ขัดแย้งกับวัฒนธรรม และจารีตดั้งเดิมของชุมชน

ด้านเทคโนโลยี
22 ความไม่สมดุลหรือ เท่าเทียมของเทคโนโลยี และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากเกินไป
23 ผลกระทบจากนาโนเทคโนโลยีที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีคำตอบ

ถ้าหากจะวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาทั้ง 23 ข้อ โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเรา ก็จะได้คำตอบง่ายๆ ที่ไม่ซับซ้อนคือ “ความไม่พอดี” ถ้าโลกตั้งอยู่บนความพอดี กินพอดี ใช้พอดี อยู่พอดี ไม่เบียดเบียน เราก็จะหยุดสงครามได้ หยุดทำลายธรรมชาติ หยุดความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ เทคโนโลยีที่พอดี ก็จะเป็นผลดีมากกว่าเป็นผลเสีย และคงไม่เกินเลยที่จะพูดว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เพียงแต่จะเป็นทางรอดของประเทศไทย ปรัชญานี้ยังจะเป็นทางรอดของวิกฤตโลกอีกด้วย