9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
Eco Village ชุมชนคนรักษ์โลก 2
Eco Village ชุมชนคนรักษ์โลก 2
เรา่ได้เกริ่นนำถึงแนวคิด Eco Village ชุมชนคนรักษ์โลกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจกับชุมชนนี้ เพราะทุกคนต่างตระหนักถึงภัยพิบัติที่ใกล้ตัวเข้ามาทุกที เราลองมาวาดภาพในรายละเอียดกันว่า Eco Village ในฝันแห่งนี้จะมีหน้าตาอย่างไร
1 อยู่กับธรรมชาติแทนการเปลี่ยนแปลงหรือเอาชนะธรรมชาติ
นี่เป็นหลักคิดพื้นฐานของชุมชนนี้ เพราะความพยายามเอาชนะธรรมชาติได้พิสูจน์ให้มนุษยชาติเห็นแล้วว่า เป็นคมดาบที่กลับมาทำลายตนเอง เมื่อมองย้อนอดีตของสังคมไทย บรรพบุรุษของเราอยู่กับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน หลายส่วนของประเทศไทยเป็นบริเวณที่ราบลุ่ม หน้าน้ำ น้ำจะท่วมบรรพบุรุษเราก็อยู่กับน้ำได้อย่างมีความสุข อาจารย์ยักษ์ยังจำความสุขวัยเด็กได้เวลาน้ำท่วม เราจะสนุกกับการเล่นน้ำ เก็บกุ้ง หอย ปู ปลา น้ำจึงกลายเป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตส่วนหนึ่งของชาวไทย ปู่ย่าตายายเรามีนวัตกรรมยุ้งข้าวระบบ “หนีน้ำ” ที่สามารถยกสูง ลอยตัวหนีน้ำได้เวลาน้ำท่วม นี่คือหลักคิดที่อิงธรรมชาติเป็นแกนกลาง และผสานชีวิตของเราให้กลมกลืนไป ในชุมชนคนรักษ์โลกของเราก็เช่นกันเราจะอยู่กับธรรมชาติอย่างประสานกลมกลืน มีชุมชนชายเขา มีชุมชนชายทุ่ง มีชุมชนชายน้ำ มีชุมชนลอยน้ำ มีคูหนองคลองบึงอยู่กระจัดกระจาย ทำหน้าที่เป็นทั้งแหล่งน้ำในหน้าแล้งและเป็นแก้มลิงรับน้ำในหน้าน้ำหลาก มีป่า 3 อย่างทำหน้าที่ให้ความร่มเย็นแทนเครื่องปรับอากาศ การเดินทางในชุมชนอาศัย จักรยาน เรือ การเดินเท้าเป็นหลักแทนรถยนต์
2 เป็นชุมชนทางเลือกด้านอาหาร สุขภาพ พลังงาน สิ่งแวดล้อม และการศึกษา
ชีวิตสมัยใหม่ที่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา ทำให้มนุษย์ขาดความละเมียดละไมกับชีวิตของตนเองในทุกมิติ ลืมเรื่องพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของตนเองไป นั่นคือ สุขภาพ เราทำงานหาเงินเพื่อแลกซื้อกับอาหารขยะ เอาสารพิษเข้าร่างกาย เมื่อเจ็บป่วยก็ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อยื้อแย่งชีวิตกลับมา Eco Village แห่งนี้จะคืนมิติที่ละเมียดละไมของมนุษย์ให้กลับคืนมา มีอาหารที่ปราศจากสารพิษ มีป่า 3 อย่างเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์แล้วยังเป็น ซุปเปอร์มาเก็ตธรรมชาติสดๆ ที่สามารถหยิบเอามาปรุงได้ในครัวทันที มีนาข้าว สวนผัก สวนสมุนไพร ที่ปราศจากสารเคมี มีระบบบำบัดน้ำเสียชีวภาพ มีอาศรมสุขภาพที่เน้นการป้องกัน รวมศาสตร์ของธรรมชาติบำบัดไว้ครบถ้วน มีพลังงานจากพืช จากลม ลองนึกภาพว่า หมู่บ้าน Eco Village ที่มีทิวทัศน์ของกังหันลมรอบหมู่บ้าน จะสวยปานใด ของเสียทุกอย่างนำกลับมาบำบัดและใช้ใหม่ เราจะเป็นชุมชนที่รักษ์โลกและดูแลโลกขนาดไหน มีโรงเรียน โรงพยาบาล มีชุมชนร้านค้าที่อำนวยความสะดวกให้ได้พอประมาณ เน้นการใช้เทคโนโลยีระดับกลางในการดำรงชีวิตประจำวัน
3 ต้นทางและปลายทางอยู่ด้วยกัน คนในชุมชนไม่จำเป็นต้องออกจากชุมชนเพื่อไปหากินที่อื่น
สังคมมนุษย์เริ่มเกิดปัญหาเมื่อผู้คนเริ่มอพยพเคลื่อนย้ายออกจากชุมชนไปแออัดอยู่ในเมือง หรือต้องทำงานนอกชุมชน การใช้น้ำมัน การใช้พลังงานก็เพิ่มมากขึ้น หรือเมื่อชุมชนไม่สามารถพึ่งตนเองด้านอาหารการกินได้ ก็จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อการขนส่งอาหารจากที่อื่น แทนที่จะได้กินอาหารสดๆ จากท้องถิ่นก็ต้องกินอาหารแปรรูป ผ่านขบวนการกรรมวิธีเก็บรักษาให้อาหารอยู่นานขึ้น จึงเป็นการสร้างความจำเป็นบนความไม่จำเป็น ในหลวงท่านเคยตรัสว่าควรทำให้ชุมชนต้นทางและปลายทางอยู่ด้วยกัน คนในชุมชนไม่จำเป็นต้องไปหากินที่อื่น มีคนหลากหลายอาชีพอยู่ในชุมชน และชุมชนสามารถสร้างงานให้คนในชุมชนได้เอง เช่นมีสถานศึกษา มีหมอ มีโรงพยาบาล ครู เกษตรกรผู้ผลิตอาหารก็เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนด้วย ชุมชนเมืองเช่นกรุงเทพฯ ในปัจจุบันที่ผู้คนต้องเดินทางไกล ใช้พลังงานกันอย่างไม่บันยะบันยัง “เกินความพอดี” อาจารย์ยักษ์ขอยกเอา แนวคิดดีๆ ใน Eco Village ชุมชนคนรักษ์โลกของเราอีกหลายข้อไปว่ากันต่อในฉบับหน้า