9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
เมื่อคนทั้งโลกกำลังเรียกหา การพัฒนาแบบยั่งยืน
เมื่อคนทั้งโลกกำลังเรียกหา การพัฒนาแบบยั่งยืน
สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจารย์ยักษ์มีโอกาสเยือนประเทศออสเตรเลีย และได้เยี่ยมชมพูดคุยกับผู้รู้ถึงทิศทางการพัฒนาเกษตร รวมทั้งอยู่ในบรรยากาศการเมืองที่กำลังคึกคักเพราะออสเตรเลียกำลังอยู่ระหว่างการเลือกตั้งระดับประเทศ ประเทศออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในประเทศเกษตรกรรมที่สำคัญ เพราะมีอัตราการผลิตด้านเกษตรและปศุสัตว์ในระดับต้นๆ ของโลก
ตั้งแต่ย่างก้าวเข้าประเทศนี้เราจะรับรู้ถึงความเข้มงวดและเอาจริงเอาจังด้านความปลอดภัยของอาหาร อาหารการกินทุกอย่างต้องปลอดภัยทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การปลูก การเก็บ การขนส่ง จนถึงผู้บริโภค มิต้องพูดถึงสารเคมี ทั้งปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง มีการควบคุมอย่างหนัก เกษตรกรที่ไม่มีใบอนุญาต จะไม่มีสิทธิ์ซื้อสารเคมีใดๆ เป็นอันขาด หากจับได้ว่าลักลอบซื้อจะผิดกฎหมาย ถึงขั้นติดคุกติดตะราง และหากใช้สารเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกลงโทษไม่ให้ผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาด เกษตรกรที่ต้องการใบอนุญาตก็ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรเรียนรู้ถึงอันตรายของสารเคมีชนิดต่างๆ และผลข้างเคียงของสารเคมีแต่ละชนิด รวมถึงปริมาณการใช้ที่ปลอดภัย การควบคุมสารเคมีในการเกษตรจะเข้มงวดตั้งแต่การซื้อ การขาย การใช้ และการจัดเก็บ หากฝ่าฝืนไม่ทำตามจะมีโทษอย่างหนัก ซึ่งจะไม่มีเกษตรกรคนไหนกล้าเสี่ยงไม่ทำตามกฎหมาย เกษตรกรออสเตรเลียทุกคนต่างตกใจที่รับทราบว่า สารเคมีที่ใช้ในเกษตรบ้านเราค่อนข้างเสรี ไม่มีการควบคุมใดๆ เกษตรกรรายใดที่ต้องการยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงก็ไปหาซื้อได้อย่างอิสระเสรีในท้องตลาดไม่จำเป็นต้องผ่านการอบรมหลักสูตรใดๆ แถมมีพ่อค้าปุ๋ยพ่อค้ายามานำเสนอสินค้าถึงท้องไร่ท้องนา จะใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดใด ปริมาณเท่าไหร่ก็ไม่ต้องผ่านการอบรมใดๆ ขอคำแนะนำจากเซลล์แมนยาเป็นอันใช้ได้ คำถามที่มักถูกถามจากเกษตรกรออสเตรเลียคือ ทำไมทางการไทยถึงปล่อยให้เกษตรกร และผู้บริโภคไทยตกอยู่ในอันตรายด้านอาหารขนาดนี้ และก็ไม่แปลกใจที่อัตราการเป็นมะเร็งของคนไทย แซงหน้าประเทศอื่นเป็นอันดับหนึ่งในเอเซียไปเรียบร้อยแล้ว อันที่จริงกฎหมายไทยก็ไม่แพ้กฎหมายประเทศพัฒนาอื่นๆ แต่สิ่งที่ไทยแพ้อย่างราบคาบคือ การบังคับใช้กฎหมาย เพราะรัฐอ่อนแอ คนของรัฐอ่อนแอ เห็นแก่อามิสสินจ้าง เห็นแก่ประโยชน์เฉพาะตน
ขณะที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ ออสเตรเลียได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เควิน รัด จากพรรคแรงงาน แทน จอห์น ฮอเวิร์ด ที่อยู่ในอำนาจนานถึงสิบเอ็ดปี การเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์การเมืองครั้งนี้ของประเทศออสเตรเลียมีนัยสำคัญต่อโลกไม่น้อย เพราะสิ่งที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ประกาศว่า เป็นภารกิจเร่งด่วนอันดับแรกก็คือการเข้าร่วมกับภาคีของโลกในสนธิสัญญาเกียวโต ในการหยุดยั้งภาวะโลกร้อน ซึ่งออสเตรเลียภายใต้การนำของ จอห์น ฮอเวิร์ด ปฏิเสธที่จะเซ็นสนธิสัญญาฉบับนี้ตามแบบลูกพี่บุช เพราะเชื่อว่าสนธิสัญญาเกียวโตจะกระทบกระเทือนอุตสาหกรรมหลักของออสเตรเลีย การเทคะแนนเสียงให้เควิน รัด เป็นการประกาศของคนออสเตรเลียว่า การพัฒนาแบบยั่งยืนที่เน้นการปกปักรักษาโลกจะเป็นหนทางเดียวของการอยู่รอดของมนุษยชาติ เป็นภาระหน้าที่ของคนรุ่นนี้ที่ต้องทำเพื่อคนรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยการร่วมกับคนทั้งโลกหยุดทำร้ายโลก บ้านหลังเดียวที่มนุษย์มีอยู่ ไม่เพียงแต่ถอดถอนผู้นำที่เน้นการเติบโตแบบใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่ยั้งคิด คนออสเตรเลียกำลังพูดถึง บ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco House) อาคารสำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Office) ชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Village) วัฒนธรรมชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Living) แล้วคนไทยล่ะกำลังพูดถึงอะไร